เลิกกล่าวหาสร้างวาทกรรมแบ่งแยก

 

(11 กพ.67) นส.ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุไม่สบายใจ ที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรคก้าวไกลใช้วาทกรรมคนรุ่นใหม่แบ่งแยกคนในสังคม
 
ถ้านายอัครเดช ฟังสิ่งที่นายพิธาสื่อสารแล้วไม่สบายใจ นั่นอาจเป็นปัญหาส่วนตัวเกี่ยวกับตีความของตัวเอง

เพราะสิ่งที่นายพิธาพูดคือการพยายามเชิญชวนให้สังคม ยอมรับข้อเท็จจริงคือความขัดแย้งทางการเมืองของสังคมไทย

โดยเฉพาะที่ต่อเนื่องจากการชุมนุมที่นำโดยคนรุ่นใหม่เมื่อปี 2563 วันนี้ยังคงอยู่

“สิ่งที่น่าไม่สบายใจ ไม่ใช่คำพูดของนายพิธา แต่คือการที่สังคมไทยยังไม่มีพื้นที่ให้แต่ละฝ่ายที่เห็นต่างกันได้พูดคุยเพื่อหาทางออกจากความขัดแย้ง กลับใช้นิติสงครามกดปราบ ผลักไสอีกฝ่ายเป็นคนไม่รักชาติ หรือเลวร้ายกว่า

นั้นคือลุกลามเป็นการใช้กำลัง หวังให้อีกฝ่ายไม่เหลือที่ยืน นี่ต่างหากคือสิ่งที่น่าไม่สบายใจ น่าเป็นห่วงต่ออนาคตประชาธิปไตยไทย“

รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า  ด้วยวัยวุฒิที่เรียกได้ว่าเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เลิกกล่าวหาคนอื่นใช้วาทกรรมแบ่งแยก และลองทบทวนดูว่าความขัดแย้งตลอดหลายสิบปีในสังคมไทยเกิดจากอะไรกันแน่

สิ่งใดที่แบ่งแยกคนออกจากกัน เป็นเพราะคำพูดของคนไม่กี่คนหรือเพราะประชาชนรับรู้ถึงความผิดปกติ ความอยุติธรรมว่ามันมีอยู่จริง

ถ้าตั้งหลักแบบนี้ได้ นายอัครเดชและพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล สามารถมีบทบาททำให้ความขัดแย้งเหล่านี้คลี่คลายลงได้