ประชานิยม ต้องมีปัญญา

 

แจกเงินจูงใจให้คนเลือกพรรคตน  หากเอาเงินส่วนตัว กกต.บอกนั่นคือการซื้อเสียง  แต่หากเอาเงินหลวง กกต.บอกนั่นคือนโยบาย  บ้าไปแล้วครับ  

คำตอบแบบนี้ไม่ต่างกับไปต่างประเทศ  หากใช้เงินส่วนตัวเรียกไปเที่ยว หากใช้เงินหลวงเรียกไปดูงาน ไปตรวจราชการ  ทั้ง ๆ ที่โปรแกรมแทบไม่แตกต่าง

สิ่งที่ กกต.ควรพิจารณา จึงไม่ใช่เกณฑ์ว่า ใช้เงินของใคร  แต่ต้องดูเจตนาว่า เป็นการให้ที่สมเหตุผล  แก่กลุ่มคนที่มีความจำเป็น หรือ เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ต้องการเม็ดเงินลงไปเพื่อการใดหรือไม่

หากให้เพื่อแก้ปัญหา คงไม่มีใครว่า  แต่หากให้เพื่อหวังคะแนนเสียง แบบใครให้เท่าไร ข้าเกทับให้มากกว่า  เพื่อน 700 ข้า 1,000  เพื่อน 3,000 ข้าให้แบบมีขั้นบันได 4,000  , 5,000 เพื่อนให้รายเดือน ข้าให้เป็นก้อน  แบบนี้ประเทศหลังเลือกตั้ง คงไม่พ้นความพังพินาศ

หนี้สาธารณะของไทยวันนี้ 10.7 ล้านล้านบาท  เป็นหนี้ของรัฐบาล 9.4 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 1 ล้านล้านบาท  และหนี้อื่น ๆ 0.3 ล้านล้านบาท  เมื่อมีรายได้เพิ่ม  ต้องคิดลดหนี้  ไม่ใช่ คิดใช้เพิ่ม  ประสาท

เหมือนเราเป็นหนี้แบงค์อยู่แสนบาท   ต้องเสียดอกเบี้ยอยู่ทุกเดือน  พอได้เงิน 2 หมื่น แทนที่จะไปตัดต้นลดดอก  ก็บอกว่ายังมีปัญญาผ่อนต่อได้  ขอเอาเงินไปกินของแพง ๆ ให้หายอยากสักมื้อ  

ประชานิยม ที่พรรคการเมืองเสนอ จึงต้องควบคู่กับปัญญา ต้องฉลาดในการใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมือง  เลิกคิดแต่จะเอาคะแนนเลือกตั้งได้แล้ว  

สมชัย  ศรีสุทธิยากร


13 เมษายน 2566