พรรคเพื่อชาติ ปลุก ปชช.ต้องเอาจริง ลดความเหลื่อมล้ำ เปิดโอกาสให้เรียนรู้

(31 มีนาคม 66 )ที่ life policyศูนย์นโยบายมีชีวิตพรรคเพื่อชาติได้จัดปราศรัยใหญ่เพื่อประกาศความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งปี 66

นางสาวปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัชหัวหน้าพรรคเพื่อชาติได้ประกาศนโยบายของพรรคเพื่อชาติบนเวทีโดยระบุว่า ประเทศไทยตอนนี้ติดอันดับต้นๆว่าเป็นประเทศที่มีปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำทั้งทางสังคมและทางด้านโอกาส

ซึ่งการลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ดีที่สุดก็คือเรื่องของการศึกษา แต่น่าเสียดายที่วันนี้การศึกษาในประเทศไทยเป็นแค่การเรียนในห้องเรียน จึงยังไม่สามารถตอบโจทย์เรื่องการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้

แต่สำหรับพรรคเพื่อชาติฝันใหญ่กว่านั้น โดยต้องการจะเปลี่ยนแปลงให้การศึกษาสามารถลดความเหลื่อมล้ำได้จริง

 

‘เปลี่ยนการศึกษาให้เป็นการศึกษาระบบแบบรวมทุกระบบทั้งในและนอกห้องเรียนและเป็นการศึกษาที่ไม่จำกัดอายุผู้เรียนในแบบที่เรียกว่าเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งทุกวันนี้ปัญหาแรกของเรื่องการศึกษาก็คือการเรียนฟรีตามรัฐธรรมนูญที่ไม่มีอยู่จริง เพราะว่าแม้จะมีการบอกว่าเด็กๆสามารถเรียนฟรีได้แต่ความจริงแล้วยังมีค่าใช้จ่ายแฝงอยู่มากมาย

อาทิค่าเสื้อผ้า ค่าธรรมเนียมต่างๆที่ทางโรงเรียนเรียกเก็บจากผู้ปกครองซึ่งก็ยังคงเป็นภาระที่ผู้ปกครองต้องแบบรับซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ประชาชนรู้ดีว่า คำว่าเรียนฟรีจากนโยบายของรัฐบาลนั้นไม่มีอยู่จริง ดังนั้นพรรคเพื่อชาติตั้งใจที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการศึกษาเพื่อให้สามารถช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและเปิดโอกาสการเข้าถึงการศึกษาได้จริง’

ขณะที่ ร.ต.อ.ดร. นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ได้ขึ้นปราศรัยโดยระบุว่า การวางแผนชีวิตของตนตั้งใจว่าจะเป็น ส.ส. เป็น สว. แล้วก็จะหยุดเมื่ออายุ 60 ปี แต่ตอนนี้อายุเลย 60 ปีมาแล้วและได้มีโอกาสมานั่งดูนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆแล้วก็รู้สึกว่าประทับใจนโยบายของพรรคเพื่อชาติ

ที่ประทับใจก็คือแม้แต่เรื่องเล็กๆอย่างเรื่องแว่นตาพรรคเพื่อชาติก็ใส่ใจประชาชน จึงอยากจะรู้ถึงนโยบายของพรรคเพื่อชาติให้มากขึ้นจึงโทรศัพท์มาปรึกษาหารือกับนายยงยุทธ ติยะไพรัชที่ปรึกษาพรรคเพื่อชาติ และได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนโยบายของพรรคจนกระทั่งวันนี้ตนก็ได้สวมเสื้อพรรคเพื่อชาติอย่างสมบูรณ์

‘การศึกษาที่จะต้องไม่พรากคนออกจากท้องถิ่นเมื่อเรียนจบแล้วต้องการให้กลับบ้านเกิดเพื่อพัฒนาบ้านตัวเอง ทุกวันนี้ประเทศพัฒนาไปอย่างรวดเร็วอีกสัก 2 ปีโลกก็เปลี่ยนไป เราสามารถอยู่ที่ไหนในโลก ในประเทศก็ได้เพราะสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้หมด เพราะสามารถเชื่อมโยงกันได้หมด แบบนี้ตนจึงมั่นใจว่าศักยภาพของพรรคเพื่อชาติสามารถทำเรื่องพวกนี้ได้เพราะดูจากประวัติดูจากการทำงานของสมาชิกพรรค


เราสามารถพึ่งพาพรรคเพื่อชาติได้ ว่าคนกลุ่มนี้ที่เพิ่งอายุ 30 กว่าๆยังมีแรงยังมีพลังที่จะทำเพื่อชาติบ้านเมืองได้อีกหลายสิบปีพวกเขายังมีเวลาลองผิดลองถูกและนำประสบการณ์ในชีวิตมาทำให้ทุกอย่างในประเทศดีขึ้นได้’

ด้าน นายยงยุทธ ติยะไพรัชที่ปรึกษาพรรคเพื่อชาติ  กล่าวว่า ข่าวร้ายข่าวแรกที่ตนจะพูดก็คือประชาชนไม่สามารถเลือกตนได้เพราะตนไม่ได้อยู่ในสถานะผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง แต่ข่าวดีคือประชาชนสามารถเลือกพรรคเพื่อชาติได้ แต่ส่วนตัวที่อยากพูดวันนี้ก็คืออยากบอกไปถึงคนที่อยู่มาแล้ว 8 ปีที่อาศัยอยู่ในทำเนียบว่าผ่านมา 8 ปีแล้วยังไม่พออีกหรือ

วันนี้คนที่อยู่ในกรุงเทพฯรับรู้ไว้ด้วยว่าภาระหนี้สินที่คนที่อยู่ในทำเนียบทำไว้
11 ล้านล้าน เงินค่าจ้างต่างๆตลอด 8 ปีจำนวน 28 ล้านล้าน

ถ้าเอาเงินพวกนี้ไปแจกจ่ายให้กับประชาชนเพื่อนำไปทำมาหากินหรือเอาไปทำประโยชน์ก็คงจะดีกว่านี้ แต่วันนี้มีนายกเอาเงิน 28 ล้านล้านไปบริหารประเทศ 8 ปีทุกอย่างก็พังหมดเจ๊งหมด ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย

วันนี้เราต้องออกมาเดินตามหลังคนหนุ่มคนสาวเพราะเราจะอยู่ได้อีกไม่นานแต่ถ้าเราปล่อยให้บ้านเมืองอยู่กับคนแบบนี้ก็พังหมด ดูง่ายๆอย่างตึกในกรุงเทพฯที่มีปัญหาฟ้องร้องกันอยู่จนตอนนี้กลายเป็นตึกร้างไม่เคยมีพรรคการเมืองพรรคไหนพูดเรื่องนี้หลังจากที่มีการประกาศกฎหมายว่าถ้าไม่ใช้ประโยชน์ตึกก็จะเสียภาษีแพง คนมีอำนาจก็เอาตึกไปปลูกกล้วยแล้วก็มาแจกกันในสภา

นโยบายของพรรคเพื่อชาติจึงต้องการที่จะเอาตึกร้างไปเป็นที่ทำมาหากินเพื่อช่วยชาวบ้าน ส่งคนไปเจรจาตกลงกับนายทุนแต่ก็ถูกขัดขวางทุกทางจากผู้มีอำนาจจึงอยากถามกลับไปว่าก่อนหน้านี้คนที่มีอำนาจอยู่ทำไมไม่ทำ
ทำไมไม่ให้โอกาสกับประชาชนได้เอาที่รกร้างว่างเปล่าไปทำประโยชน์

ส่วนกรณีน้ำท่วมแก้ไขปัญหาไม่ได้ก็บอกว่าน้ำรอระบายบอกกับคนในประเทศว่าคนจนจะหมดประเทศสุดท้ายคนจนก็เต็มบ้านเต็มเมือง


แจกบัตรสวัสดิการให้คนที่ไม่จนจริงพอถูกวิจารณ์ก็บอกว่าบัตรคนจนทำออกมาเพื่อตอบสนองให้กับกลุ่มคนเปราะบาง
ในสังคม

วันนี้เรามีพรรคเพื่อชาติแล้วและพรรคเพื่อชาติจะออกแบบประเทศใหม่ เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมีที่ดินทำกินไม่ใช่เอาที่ดินไปยกให้ต่างชาติหรือให้กับนายทุน

‘ที่ผ่านมาประชาชนอาจจะไม่มีโอกาสโวยวายทั้งเรื่องค่าไฟแพง ไม่มีเงิน  ไม่มีที่ดินทำกิน แต่วันที่ 14 พฤษภาคม 66นี้ พี่น้องสามารถโวยวายได้ ด้วยการไปลงคะแนนเลือกพรรคเพื่อชาติเพื่อให้พรรคเพื่อชาติไปทวงค่าไฟคืน’นายยงยุทธ กล่าวทิ้งท้าย