ต้านทุนใหญ่ผูกขาด พร้อมยกเลิกกำหนดเวลาขาย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 66 ที่จตุจักร Playground antique flea marketนางสาวปวิศรัฐฐ์  ติยะไพรัช  หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ได้เข้าร่วมงาน  Beer  People  Festival  ที่จัดโดยกลุ่มประชาชนเบียร์ ภายในงานได้มีงานเสวนาทิศทางต่อไปของเหล้าเบียร์ในประเทศไทย นางสาวปวิศรัฐฐ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณทาง ประชาชนเบียร์ ที่ได้จัดกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ขึ้นมาและให้โอกาสร่วมเวทีเ สวนา ในฐานะนักการเมือง และ ประชาชนคนหนึ่ง ที่ได้แสดงความคิดเห็นต่อสิทธิของผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

“โดยส่วนตัว  ให้ความสำคัญกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางเลือกที่หลากหลาย ปัจจุบัน สโมสรเชียงรายยูไนเต็ด เรามีร้านที่สนับสนุนคราฟต์เบียร์ หรือสุราทางเลือกอยู่ด้านหน้าสนาม เป็นสนามแรก และสนามเดียวในประเทศไทยตอนนี้”  สำหรับพรรคเพื่อชาติเอง  เราเห็นด้วยกับการผลักดันกฏหมายปลดล็อกการผลิตสุราของผู้ผลิตรายย่อยและสุราชุมชน   ที่หลายๆ พรรคช่วยกันผลักดันอยู่ในสภา และมีจุดยืนทางนโยบายเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติม ทั้ง ยกเลิกการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (พรบ. ควบคุมการโฆษณา ของสาธารณสุขมาตรา 32) เพื่อส่งเสริมการแข่งขันของผู้ค้ารายย่อย

และเพื่อปกป้องประชาชนจากการโดนกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้ารัฐ และให้ไปเก็บภาษีอัตราก้าวหน้าในการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แทน  ยกเลิกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องกำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2558 ที่กำหนดให้ขายได้เฉพาะช่วงเวลา11.00-14.00 น. และ17.00-24.00 น. เนื่องจากโดยสถิติแล้วการกำหนดเวลาขายไม่ได้ช่วยลดอัตราการดื่มแต่ประการใด

แถมยังเป็นกฎหมายที่ต่อยอดมาจาก ประกาศคณะปฏิวัติ สมัยจอมพลถนอม กิตติขจร บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2515 โดย ณ ตอนนั้นมีจุดประสงค์เพื่อห้ามข้าราชการหนีงานออกมาสังสรรค์ ทั้ง2ข้อเป็นรายละเอียดกฎหมายที่ล้าสมัย มีจุดมีปัญหาหลายประการ ทั้งเรื่องการตีความตามดุลยพินิจเจ้าหน้าที่ รางวัลนำจับที่เข้ากระเป๋ารัฐเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ และสร้างความยากลำบากให้กับประชาชนทั่วไปมากกว่าผู้ค้ารายใหญ่   

พรรคเพื่อชาติเห็นว่าสิ่งนี้ต้องได้รับการแก้ไข นอกจากนี้พรรคเพื่อชาติ มีนโยบาย ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านกระบวนการผลิตตั้งแต่การปลูกพันธุ์พืช เครื่องจักร องค์ความรู้ หลักสูตรต่าง ๆ เพื่อการผลิตสุรา แอลกอฮอล์ ในโรงเรียนอาชีวะ ที่สามารถสร้างความพร้อมด้านเครื่องไม้เครื่องมือ และการจัดการการผลิตให้ประชาชนได้ รวมถึง กศน. หน่วยการศึกษาที่สามารถเข้าถึงชุมชนได้อย่างทั่วถึง

ประเทศไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก มีความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ หรือเครื่องเทศ ที่เหมาะจะใช้ในการผลิตเครื่องดื่มต่างๆ แน่นอนว่าการปลดล็อกเรื่องเหล่านี้ก็จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง หรือเป็นผู้นำในการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีคุณภาพ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากมายมหาศาล’ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าว