ตำรวจกองปราบฯ คุมตัวนายจิ๋ว คนสนิทสารวัตรซัว ส่งฝากขังศาลอาญา

( 5 มี.ค. 66)ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ควบคุมตัว นายธีรพงศ์ หรือ จิ๋ว คนสนิทของ พันตำรวจโท วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ สารวัตรซัว อดีตสารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง และพวกรวม 6 คน หลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขัง โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

โดยให้เหตุผลว่าหลักฐานส่วนใหญ่เป็นข้อมูลทางเทคโนโลยีที่ผู้ต้องหาสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย จึงเกรงว่าจะไปทำลายหลักฐาน ซึ่งทั้งหมดให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา

ซึ่งก่อนหน้านี้ ตำรวจสอบสวนกลางได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว รวมหมายจับทั้งสิ้น 14 หมายจับ

ประกอบด้วยหมายจับสารวัตรซัวและนายจิ๋ว จำนวน 2 หมายจับ และเป็นหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีพนันออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายสารวัตรซัวอีก 12 หมายจับ

ซึ่งผู้ต้อง 2 คน ใน 6 คน ที่ถูกควบคุมไปฝากขังนั้น ถูกดำเนินคดีข้อหาเพิ่มเติมเนื่องจากมียาเสพติดไว้ในครอบครอง และเป็นการจับกุมตามความผิดซึ่งหน้า

พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เช่น พนักงานบริษัทในเครือของสารวัตรซัว และม้าที่เปิดบัญชีรับเงินพนันออนไลน์

ส่วนสารวัตรซัวนั้นจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้ประสานเข้ามอบตัวแต่อย่างใด จึงถือว่ามีพฤติกรรมหลบหนี

มีรายงานว่า ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้มีคำสั่งให้ขยายผลติดตามจับกุมกลุ่มบัญชีม้าที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายพนันออนไลน์ของสารวัตรซัวโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และนนทบุรี ที่ก่อนหน้านี้เคยเข้าตรวจค้นไปแล้ว แต่ปรากฎว่าผู้ต้องหาบางคนไหวตัวทันหลบหนีออกจากพื้นที่ไปก่อน

อย่างไรก็ตามตำรวจกำลังไล่ติดตามจับกุมและคาดว่าจะได้ตัวในเร็วนี้

สำหรับการยึดอายัดทรัพย์ที่มีรายงานว่าเป็นของสารวัตรซัวในจังหวัดภาคตะวันออก ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยจะประสานเจ้าหน้าที่กรมที่ดินในการยืนยันเอกสารว่าเป็นของเครือข่ายสารวัตรซัวหรือไม่

และหลังจากนี้จะมีการประชุมความคืบหน้า และขยายผลดำเนินการกับผู้ต้องหาและทรัพย์สินที่เหลือ ซึ่งคาดว่ายังมีอีกจำนวนมาก และจะมีการลงพื้นที่ตรวจค้นเป้าหมายเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้