ททท. โชว์ความสำเร็จเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์สร้างสรรค์ นำร่องเส้นทางแรก “สามเหลี่ยมมหัศจรรย์ของทวารวดี”

ททท. เผยความสำเร็จโครงการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์สร้างสรรค์อย่างงดงาม หลังนำร่องเส้นทางท่องเที่ยวคุณภาพสูงในภูมิภาคภาคกลางเส้นทางแรก ด้วยเส้นทาง "สามเหลี่ยมมหัศจรรย์ของทวารวดี" สัมผัสรากเหง้าก่อนประวัติศาสตร์สมัยทวารวดี ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี สุพรรณบุรี และนครปฐม มุ่งจุดประกายต่อยอดสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในพื้นที่ และสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน

นายกิตติพงษ์ ประพัฒน์ทอง ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ดำเนินกิจกรรมเส้นทางประวัติศาสตร์นำร่องคุณภาพสูง ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และหอการค้าไทย โดยดำเนินการเส้นทางแรก ภายใต้ชื่อ "สามเหลี่ยมมหัศจรรย์ของทวารวดี" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 21 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ณ จังหวัดราชบุรี สุพรรณบุรี และนครปฐม ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีที่ตั้งเก่าแก่ของเมืองในสมัยทวารวดี โดยมุ่งหวังว่าในแต่ละเส้นทางประวัติศาสตร์ของโครงการจะสามารถต่อยอดไปสู่แหล่งท่องเที่ยวอารยะอื่น ๆ ได้ในอนาคต อีกทั้งส่งเสริมวิถีชีวิตชุมชน อาหาร ตลาดการค้าท้องถิ่น ตลอดจนพัฒนาผู้ประกอบการให้มีศักยภาพ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวได้ และขับเคลื่อน Amazing Experience ตามแนวคิด Happy Model ต่อไป

กิจกรรมท่องเที่ยวในวันแรกมุ่งหน้าสู่จังหวัดราชบุรี เพื่อเรียนรู้ “แหล่งโบราณสถานเมืองคูบัว” เมืองท่าที่เจริญรุ่งเรืองในยุคสมัยทวารวดี ชม “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี” และการทดลองใช้กล้องโฮโลเลนส์ หนึ่งในนวัตกรรมจากทีมนักวิจัยสู่การจำลองภาพเสมือนจริง 3 มิติ โดยคาดหวังว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นพิพิธภัณฑ์ต้นแบบในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการนำเสนอ ต่อด้วยเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ “ศาลเจ้าพ่อกวนอู” ชมความสวยงามของตู้สาแหรกจีนเก่าแก่อายุนับร้อยปี พลาดไม่ได้กับการชมแหล่งท่องเที่ยว Unseen “ซุ้มประตูบ้านเศรษฐีเก่าชาวจีนที่วัดช่องลม” ปิดท้ายชวนสัมผัสบรรยากาศงานแสดงไฟสุดอลังการ ณ “ณ สัทธา อุทยานไทย” ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมแต่งไทยย้อนยุคถ่ายรูปสุดประทับใจ

สำหรับการเดินทางในวันที่ 2 พาไปสัมผัสประวัติศาสตร์เมืองอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ชมแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ยุคเหล็ก “พิพิธภัณฑ์บ้านดอนตาเพชร” ชุมชนโบราณที่ในอดีตมีการติดต่อทางทะเลกับทั้งอินเดียและทางตะวันออกนานกว่า 2,500 ปี ตื่นตาตื่นใจไปกับการจัดแสดงเรื่องราวเมืองโบราณอู่ทองและวัฒนธรรมทวารวดีอย่างทันสมัยที่ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง” พร้อมแวะชมโบราณสถานใต้ดินที่ “วิหารถ้ำ” สุด Unseen ณ แหล่งโบราณสถานบ้านศรีสรรเพชญ์ ชมความมหัศจรรย์ของ “พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” ประติมากรรมพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอาเซียน

วันสุดท้ายแวะเยี่ยมชม “ชุมชนบ้านต้นแจงพัฒนา” ร่วมกิจกรรมทำยาดมหัวตุ๊กตาหน้าทวารวดี ผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยนำอัตลักษณ์ของเมืองโบราณอู่ทองมาสร้างงานศิลปะ ปิดท้ายทริปที่จังหวัดนครปฐม หนึ่งในจังหวัดของภาคกลางที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนานไม่แพ้กัน แวะสักการะพระร่วงโรจนฤทธิ์ และชม “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์” เรียนรู้ประวัติศาสตร์ขององค์พระปฐมเจดีย์ และชมพระประโทณเจดีย์ที่เชื่อว่าเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองโบราณในอดีต

ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า
ที่ผ่านมาเราเคยได้รับรู้ว่าประวัติศาสตร์ของไทยเริ่มมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย แต่ความจริงแล้วประวัติศาสตร์ไทยไปลึกกว่านั้นเป็นพัน ๆ ปี ดังเช่นทริปที่พวกเราได้มาตามรอยประวัติศาสตร์ทวารวดีผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์สร้างสรรค์ “สามเหลี่ยมมหัศจรรย์ทวารวดี” ในพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ของ 3 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี สุพรรณบุรี และนครปฐม ได้ย้อนเวลาไปกว่าพันปีเศษ เรียนรู้ความเป็นมาของดินแดนในเขตนี้ว่ามีความเจริญรุ่งเรืองอย่างไร ได้เห็นพื้นฐานของไทยตลอดจนการเติบโตของยุคสมัยไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจและสังคม สิ่งที่กระทรวง อว. โดย สำนักบริหารวิทยสถาน สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์แห่งประเทศไทย (ธัชชา) กำลังดำเนินการอยู่คือการเติมเต็มองค์ความรู้ทางวิชาการ สนับสนุนเทคโนโลยีและวิทยาการ รวมทั้งนักวิชาการที่ดีที่สุดทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ เพื่อให้คนไทยได้รับทราบข้อเท็จจริงและมีความเข้าใจในประวัติศาสตร์ของไทย มีความภาคภูมิใจในอดีตต่อยอดมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะนำไปสู่ความหวังของประเทศในอนาคต

“สิ่งสำคัญในช่วง 3 วันที่ผ่านมา คือ เราได้เห็นรูปธรรมของ 3 ประสานที่สำคัญได้แก่ กระทรวง อว. ททท. และหอการค้าไทย โดยที่ กระทรวง อว. มีองค์ความรู้ทางวิชาการอยู่เยอะมาก แต่เงื่อนไขคือจะสร้างมูลค่าเพิ่มจากองค์ความรู้ทางวิชาการได้อย่างไร โดยมุ่งหวังว่าวิชาการจะไม่เพียงเพื่อวิชาการเท่านั้น แต่จะต้องเป็นวิชาการเพื่อเศรษฐกิจและสังคมด้วย และหนึ่งในสิ่งที่ทาง ททท. มีความชำนาญเป็นอย่างมากก็คือความสามารถในการต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการท่องเที่ยว นำข้อมูลมาต่อร้อยเรื่องราวเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมถึงองค์ประกอบที่สำคัญ คือหอการค้าไทย และผู้ประกอบการในพื้นที่ จะต้องได้รับประโยชน์จากกิจกรรมในครั้งนี้ และทำหน้าที่ต่อยอดสร้างความยั่งยืนต่อไป ซึ่งเชื่อว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ และสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนได้อีกมาก” ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ กล่าว

ขณะที่ นายธวัชชัย เศรษฐจินดา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือการขับเคลื่อนโครงการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์สร้างสรรค์ที่ดำเนินการร่วมกันระหว่าง 3 หน่วยงาน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สอดคล้องตามหมุดหมายการพัฒนาประเทศไทย ให้เป็นจุดหมายของการท่องเที่ยว โดยใช้แนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มุ่งเน้นการท่องเที่ยวมูลค่าสูง สามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและการกระจายรายได้ อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสอดรับกับ HAPPY MODEL (โมเดลอารมณ์ดี มีความสุข) ภายใต้นโยบาย Connect the Dots ของหอการค้าไทย

โดยผลความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหลายภาคส่วนที่มุ่งมั่นตั้งใจร่วมกันจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ความยั่งยืนด้วยเป้าหมายการนำเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของไทย ประกอบด้วยหน่วยงานอันสำคัญ ได้แก่

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ นายกิตติพงษ์ ประพัฒน์ทอง ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง พร้อมด้วยทีมกองตลาดภาคกลางและทีมสำนักงาน ททท. ทั้ง 3 จังหวัดในพื้นที่ ได้แก่ สำนักงานราชบุรี สำนักงานกาญจนบุรี และสำนักงานสุพรรณบุรีหอการค้าไทย นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายธวัชชัย เศรษฐจินดา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคกลาง หอการค้าไทย ทีมงานหอการค้าไทย หอการค้าจังหวัด และ YEC หอการค้าทุกจังหวัด


กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ดร.สิริกร มณีรินทร์ นายกสภาสถาบันวิทยาลัยชุมชน อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช ผู้อำนวยการสถาบันสุวรรณภูมิศึกษา และนางสาวสิริธรรม ณ ระนอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารวิทยสถาน สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์แห่งประเทศไทย (ธัชชา)  และวิทยากรจากมหาวิทยาศิลปากร นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชวลิต ขาวเขียว รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร และทีมอาจารย์จากคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร