แม่มีอาการทางสมอง พาลูก 2 เดือน เร่ร่อนขอทานหาเงิน
ชาวบ้านในพื้นที่เขตสายไหมร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอดให้ตรวจสอบและช่วยเหลือเด็กทารกที่ถูกแม่นำมาเดินเร่ร่อนขอทานตามพื้นที่ต่างๆบางครั้งก็วางลูกไว้กับทางเท้าตากแดด
วันนี้ ผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่ไปพร้อมกับเพจสายไหมต้องรอดไปยังห้องเช่าแห่งหนึ่งย่านเพิ่มสิน ซึ่งภาพที่ไปเจอนางสาวมะลิ แม่น้องเด็กทารก กำลังถูกคุณป้าเจ้าของห้องแถว สั่งสอน ว่าไม่ให้พาลูกออกไปเร่ร่อนขอทานอีก
เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกแยกลูกออกไป ซึ่งนางสาวมะลิซึ่งมีอาการทางสมองได้ยกมือไหว้สัญญาว่าจะไม่ทำอีก
เจ้าของหอพักบอกว่า นางสาวมะลิมีอาการทางสมองพอสามีออกไปขับแท๊กซี่ตอนเช้ามืดนางสาวมะลิก็จะอุ้มลูกออกจากห้องพักตนเองพยายามห้ามปรามหลายครั้งก็ไม่ฟังว่าอย่าพาลูกออกไป เพราะลูกพึ่งคลอดแต่บางครั้งก็ถูกนางสาวมะลิโวยวายร้องไห้จึงทำได้แค่บอกสามีของนางสาวมะลิ
ผู้สื่อข่าว จึงเข้าไปดูสภาพความเป็นอยู่ พบว่านางสาวมะลิอยู่กับสามีอาชีพขับแท๊กซี่ และลูกสาวน้องมะนาวซึ่งอยู่ในวัยเพียงแค่ 2เดือน
ซึ่งสภาพความเป็นอยู่ก็ค่อนข้างยากลำบากเนื้อตัวน้องมะนาวมีร่องรอยยุงกัดเนื้อเสื้อเสื้อผ้ามอมแมม
นายเสน่ห์ นามสมสมุติ สามีนางสาวมะลิบอกว่า ภรรยามีอาการสมองต้องกินยาระงับประสาท ที่ผ่านมาตนเองไม่ทราบว่าภรรยาพาลูกสาวออกไปเร่ร่อนขอทาน
จนเมื่อวานเห็นแชร์กันในโซเชียลมีเดีย จึงรู้ว่าภรรยาพาลผูกน้อยไปเร่ร่อน
ที่ผ่านมาตนเองไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินเลยหาเลี้ยงภรรยาและลูกได้แต่ภรรยาแอบออกไปตอนตนเองไม่เห็น ยืนยันไม่ได้สนับสนุนและส่งเสริมให้ภรรยาทำแบบนั้น
ทางทีมงานเพจสายไหมต้องรอดนำโดยนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ บอกว่า ตัวสามีต้องไปให้ปากคำกับตำรวจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขอทานของภรรยา
เพราะทางเพจสายไหมต้องรอด จะไปลงบันทึกประจำวันไว้ และคำให้บอกเล่าของร้านขายทองย่านสายไหมบอกว่าแหวนทองคำที่ตัวสามีใส่ก็เป็นแหวนที่นางสาวมะลิเอาเงินจากการขอทานไปซื้อ
ตรงนี้สามีต้องชี้แจงต่อตำรวจ ส่วนตัวน้องมะนาวลูกสาวจะถูกพม.เอาไปดูแลที่บ้านพักเด็กก่อน และพานางสาวมะลิไปรักษาบำบัด
นายเอกภพบอกว่า กรณีนี้
เพจสายไหมได้รับการร้องเรียนตั้งแต่ปลายปีที่แล้วพยายามส่งคนเข้าไปตรวจสอบช่วยเหลือเด็กทารกคนนี้
แต่ทุกครั้งนางสาวมะลิผู้เป็นแม่จะพาหลบทันที จนวันนี้สามารถเข้าช่วยเหลือเด็กไว้ได้ เพราะหากปล่อยไปเด็กคนนี้จะเป็นอันตรายเพราะบางครั้งนางสาวมะลิก็จะนำลูกไปวางที่ไว้ที่ป่ากล้วยด้านหลังห้องแถว
เพราะด้วยอาการทางสมองจึงคิดว่าอนาคตนางสาวมะลิจะทำกับลูกสาวมากกว่านี้อีกถ้าไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย