รมว.ทส.​ ลงพื้นที่ติดตามการจัดสร้างแหล่งน้ำสำหรับช้างป่า

 พลเอก สุรศักดิ์  กาญจนรัตน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ ตำบลท่ากระดาน อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อติดตามการจัดสร้างแหล่งน้ำสำหรับช้างป่าตามโครงการแก้ไขปัญหาช้างป่าออกหากินนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์แบบบูรณาการ (ท่าตะเกียบโมเดล) ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบม – สียัด

ซึ่งอยู่บริเวณตอนเหนือของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน พร้อมรับฟังสรุปรายงานโครงการแก้ไขปัญหาช้างป่าออกหากินนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์แบบบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน เป็นโครงการนำร่อง​ในพื้นที่อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา​ จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์​ ที่​ 2​ (ศรีราชา)​ ดังนี้


1. การจัดการตรึงช้างป่าให้อยู่กับที่หรือลดการสูญเสียของพืชไร่และทรัพย์สินของประชาชน
2. การสร้างความคุ้นเคย ความไว้ใจ และลดความดุร้ายของช้างป่า โดยให้ประชาขนที่ได้รับความเสียหายเข้ามามีส่วนร่วม


3. การปรับปรุงพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบม-สียัด ให้มีแหล่งน้ำสำหรับช้างป่า และมีแปลงทุ่งหญ้า ตลอดจนแปลงพืชอาหารช้างที่สมบูรณ์ เพื่อเป็นพื้นที่รองรับช้างป่าชั่วคราว
4. การปรับปรุงพื้นที่ในขสป.เขาอ่างฤาไน ให้มีแหล่งน้ำขนาดที่เหมาะสมสำหรับช้างป่า มีแปลงทุ่งหญ้า และแปลงพืชอาหารช้าง ตลอดจนโป่งเทียม ที่เพียงพอ
5. สร้างกระบวนการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับช้างป่า การปรับตัว และลดความขัดแย้ง ด้วยวิธีการตรึงช้างป่าไว้ในบริเวณที่ช้างป่าพักอาศัยอยู่ด้วยการให้อาหาร หรือชดเชยความเสียหายให้แก่ราษฎรตามความเหมาะสม เมื่อดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ให้มีแหล่งน้ำแหล่งอาหารในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบม-สียัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงผลักดันช้างป่าไปยังพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบม-สียัด บริเวณตอนเหนือของขสป.เขาอ่างฤาไน ซึ่งเป็นพื้นที่เตรียมการผนวกเป็นขสป.เขาอ่างฤาไน เพื่อรอเวลาผลักดันกลับเข้าสู่ขสป.เขาอ่างฤาไน เมื่อแหล่งน้ำแหล่งอาหารภายในพื้นที่ขสป.เขาอ่างฤาไน ได้รับการปรับปรุงให้อุดมสมบูรณ์พร้อมเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ จากการสำรวจของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในปี พ.ศ. 2561 พบว่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน มีจำนวนช้างป่าประมาณ 240 ตัว มีอัตราการเกิดประมาณ ร้อยละ 8 ซึ่งพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไนยังมีศักยภาพที่สามารถรองรับจำนวนประชากรช้างป่าได้ แต่ในปัจจุบันพื้นที่ป่าแนวกันชนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติได้ถูกบุกรุกครอบครองเข้าทำการเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัยเป็นชุมชน มีการขุดแหล่งน้ำ ปลูกพืชทั้งไม้ผลและพืชไร่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เข้าไปหากินในพื้นที่เกษตรกรรมของประชาชน และมีแนวโน้มที่ช้างป่าจะอยู่ประจำนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จึงกลายเป็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นจนถึงขั้นวิกฤต เนื่องจากมีการสูญเสียชีวิตทั้งราษฎรและช้างป่า พืชผลและทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ