อสส. ยันรัฐบาลไม่แทรกแซงคดีฮาคีม

จากกรณีที่กักตัวและอยู่ระหว่างการพิจารณาส่งตัวนายฮาคีม อัล อาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน เป็นผู้ร้ายข้ามแดน หลังถูกศาลบาห์เรน พิพากษาจำคุก 10 ปี ในข้อหาวางเพลิงทำลายทรัพย์สินราชการ นายชัชชม อรรฆภิญญ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ และนายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ยืนยันว่า กระบวนการยุติธรรมของไทย ได้ทำตามข้อกฏหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจาก คดีของนายฮาคีม เป็นฐานความผิดในคดีอาญาที่เข้าเงื่อนไขการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เช่น มีวัตถุระเบิด และ เผาสถานที่ราชการ ซึ่งไม่เกี่ยวกับคดีทางการเมือง และไม่ใช่คดีทางทหาร และที่ผ่านมารัฐบาลไทย ไม่ก้าวก่ายต่อการทำงานของกระบวนการยุติธรรมของไทย แม้ว่าต่างประเทศและองค์กรต่างๆจะกดดันรัฐบาลไทย แต่กระบวนการของศาล ต้องใช้เวลากว่าผลการพิจารณาออกมา อาจจะยืดเยื้อไปจนถึงรัฐบาลชุดใหม่  

ส่วนที่นายฮาคีม โต้แย้งว่าขณะเกิดเหตุตนเองกำลังแข่งขันฟุตบอลนัดถ่ายทอดสดอยู่ในประเทศบาห์เรนนั้น เป็นรายละเอียดที่ศาลบาห์เรน พิจารณา อัยการสูงสุด ดูเพียงการพิจารณาว่าเข้าตามเกณฑ์ส่งผู้ร้ายข้ามแดนของไทยเท่านั้น และนายฮาคีม ไม่เคยโต้แย้งประเด็นนี้กับอัยการสูงสุดมาก่อน สำหรับสาเหตุที่พนักงานอัยการคัดค้านการประกันตัวของนายฮาคีม ก็เป็นไปตามหลักปฏิบัติ กรณีที่ผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ เพราะจากสถิติหลังได้รับการประกันตัวคนต่างชาติหลบหนีจำนวนมาก คดีลักษณะนี้อัยการสูงสุดจึงได้คัดค้านการประกันตัวตลอด

ซึ่งคดีอยู่ในกระบวนการของศาล ไม่ว่าการพิจารณาจะออกมาเป็นอย่างไร ทั้งสองฝ่ายสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน ทนายความของนายฮาคีม สามารถนำประเด็นการเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง และ ประเด็นการถูกควบคุมตัวทั้งที่ตำรวจสากลยกเลิกหมายแดงแล้วให้ศาลพิจารณาได้ ขอให้ทุกฝ่ายอย่าเพิ่งตีความหรือก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม และหากระหว่างนี้ทางการบาห์เรนและออสเตรเลียสามารถพูดคุยตกลงกันได้ ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ขณะนี้ อัยการ ต้องดำเนินการเรื่องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนก่อน