ศาลจำคุกซินแสโชกุน-พวก4,355ปี ลวงเหยื่อลอยแพสุวรรณภูมิ-ปรับ435ล.

ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีฉ้อโกงประชาชน หมายเลขดำ อ .2176/60 ที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ฟ้องบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด โดย นางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ "ซินแสโชกุน" อายุ 31 ปี กรรมการบริษัทฯ, นางมณฑญาณ์ นิรันดร หรือ จันทร์ฉาย นาคฤทธิ์ อายุ 56  ปี มารดาซินแสโชกุน, นายก้องศรัณย์ แสงประภา อายุ 23 ปี ลูกพี่ลูกน้อง, นางสาวทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ อายุ 36 ปี หญิงคนสนิทของซินแสโชกุน, นางประนอม พลานุสนธิ์ อายุ 41 ปี เลขานุการส่วนตัวของซินแสโชกุน, นางณิชมน แสงประภา อายุ 65  ปี ป้าของซินแสโชกุน และเป็นมารดาของนายก้องศรัณย์, นางพารินธรญ์ หงส์หิรัญ ดัคกอร์ อายุ 36 ปี ผู้ดูแลการเงิน, นางสาวสุดารัตน์ อเนกนวล อายุ 26 ปี และนายโกวิท ช่วยสัตว์ อายุ 31  ปี เป็นจำเลยที่ 1-10 ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343  พ.ร.ก. การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 3, 4, 12 และ พ.ร.ก. การกู้ยืมเงินฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2534 และ พ.ศ.2545 นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ด้วยข้อความเป็นเท็จฯ และข้อหาอื่นฯ พร้อมทั้งขอชดใช้เงินให้กับผู้เสียหายจำรนวน 871 คน พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
 
สำหรับพฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อระหว่างวันที่ 25 มกราคม  – 11 เมษายน 2560  ซินแสโชกุน จำเลยที่ 2 - 10 กับพวกร่วมกันหลอกลวงฉ้อโกงประชาชนโดยใช้เฟซบุ๊ก "WEALTH EVER  FOR LIFE" และไลน์กลุ่ม ประกาศเชิญชวนให้ประชาชนสมัครเข้าเป็นสมาชิก และร่วมลงทุนกับพวกจำเลย เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารบำรุงสมอง MASTERMIND  ของบริษัท ALLYSIAN โดยจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนทำให้ร่ำรวยขึ้น พร้อมกับการจัดโปรแกรมประชุมสัมมนาท่องเที่ยวให้สมาชิก เดินทางไปเมืองโอซาก้า  ประเทศญี่ปุ่น ระหว่าง 10 -15 เมษายน 2560 และ 11- 16 เมษายน 2560 โดยเครื่องบิน AIR BUS  A330-300  ขนาด 377 ที่นั่ง ของสายการบินคาร์เธ่ แปซิฟิก จำนวน 6 ลำ และประเทศอื่น ๆ จนมีประชาชน 871 รายหลงเชื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิกร่วมลงทุนทำธุรกิจกับ บริษัทจำเลยที่ 1 กับพวก จนได้รับความเสียหายจำนวนมาก
 
นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2560 - 10 เมษายน 2560 ซินแสโชกุล จำเลยที่ 2 ยังได้ ลักลอบนำผลิตภัณฑ์อาหารเสริม MASTERMIND ชนิดแค็บซูล และอาหารเสริม SMART KIDS เข้ามาในราชอาณาจักรหลายครั้งหลายหน รวมมูลค่าสินค้าและอากรแสตมป์กว่า 945,131 บาท ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ 2550, พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469, พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 โดยจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ
 
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ มั่นคงน่าเชื่อถือ  ขณะที่ข้อต่อสู้จำเลยฟังไม่ขึ้น
 

พิพากษาจำคุก นางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน จำเลยที่ 2, นางสาวทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ หญิงคนสนิทของซินแสโชกุน จำเลยที่ 5 และนางพารินธรญ์ หงส์หิรัญ ดัคกอร์ จำเลยที่ 8 ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน 871 กระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 4,355 ปี อย่างไรก็ตามกฎหมายให้จำคุกจำเลยไว้สูงสุดไม่เกิน 20 ปี คงจำคุกจำเลยทั้งสามไว้คนละ 20 ปี
 
ส่วนบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำเลยที่ 1 ให้ปรับ กระทงละ 5 แสนบาท จำนวน 871 กระทง รวมปรับ  435,500,000 บาท นอกจากนี้ให้จำเลยที่ 2, 5 และ 8  ร่วมกันคืนเงินแก่ผู้เสียหาย  871 ราย รวมเป็นเงิน 51 ล้านบาทเศษด้วย ส่วน นางมณฑญาณ์ นิรันดร หรือ จันทร์ฉาย นาคฤทธิ์ มารดาซินแสโชกุน และจำเลยอื่น ๆให้ยกฟ้อง
 

 

ภาพ:สวพ.91