อัยการฟ้องซินแสโชกุน-ครอบครัว-คนใกล้ชิดฉ้อโกง ปชช.

(6กค.60)  ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วย นายประยุทธ์ เพชรคุณ , นายจิโรจน์ เอี่ยมโอภาส อัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 กับ นายปกรณ์ ธรรมโรจน์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด คณะทำงานคดีซินแสโชกุน ร่วมแถลงผลการสั่งคดี น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน สาวทอมอายุ 30 ปี กรรมการบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด กรณีที่ชักชวนให้ผู้เสียหายหลายร้อยคน เข้าเป็นสมาชิกของบริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โดยอ้างว่าจะมีสิทธิได้เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศในแถบเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี 

 

 โดย ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันนี้พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 ได้นำสำนวนคดีและเอกสารหลักฐานยื่นฟ้องบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด และน.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน กรรมการบริษัท กับพวกรวม 10 คนต่อศาลอาญา แล้วพร้อมทั้งคัดค้านการประกันตัวของผู้ต้องหาทั้ง 10 คน เนื่องจากคดีมีผู้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากและเป็นภัยแก่ระบบเศรษฐกิจและสังคมแล้วเกรงว่าหากศาลให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างการพิจารณาจำเลยอาจหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานโจทก์ได้ ขณะเดียวกันอัยการยังได้ระบุในคำฟ้องขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยในสถานหนักด้วย รวมทั้งขอให้ศาลสั่งผู้ต้องหาทั้ง 10 คนร่วมกันคืนหรือชดใช้เงินให้กับผู้เสียหายรวม 871 คน พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้นในผู้เสียหายแต่ละรายนับแต่วันฟ้อง ( 6 ก.ค.60) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ ซึ่งคดีนี้มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก และราคาทรัพย์ ที่ผู้เสียหายถูกผู้ต้องหาฉ้อโกงมีจำนวนมากอีกทั้งคดีเป็นที่สนใจของประชาชนกับสื่อมวลชนเสนอเป็นข่าวใหญ่จึงถือเป็นคดีสำคัญ นายจิโรจน์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจฯ 2 จำนวน 4 คน เป็นคดีทำงานในการพิจารณาสั่งคดี

 

โดยคดีดังกล่าวนายจิโรจน์ เอี่ยมโอภาส อัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 ได้มีคำสั่งฟ้องคดีอาญา บจก. เวลท์เอเวอร์ ,น.ส.พสิษฐ์ หรือ ซินแสโชกุน กรรมการบริษัทฯ, นางมณฑญาณ์ นิรันดร หรือ จันทร์ฉาย นาคฤทธิ์ อายุ 55 ปี มารดาซินแสโชกุน ,นายก้องศรัณย์ แสงประภา อายุ 22 ปี ลูกพี่ลูกน้องของซินแสโชกุน,น.ส.ทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ อายุ 35 ปี หญิงคนสนิทของซินแสโชกุน , นางประนอม พลานุสนธิ์ อายุ 40 ปี เลขานุการของซินแสโชกุน , นางณิชมน แสงประภา อายุ 64 ปี ป้าของซินแสโชกุนและเป็นมารดาของนายก้องศรัณย์ ,นางพารินธรญ์ หงส์หิรัญ ดัคกอร์ อายุ 35 ปี , น.ส.สุดารัตน์ อเนกนวล อายุ 25 ปี และนายโกวิท ช่วยสัตว์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาที่ 1-10 ในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน  ที่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ,343 พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 3, 4, 12 และพ.ร.ก.การกู้ยืมเงินฯ(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2534 และ พ.ศ. 2545

 

และสั่งฟ้อง น.ส.พสิษฐ์ หรือ ซินแสโชกุน กรรมการบริษัทฯ, นางมณฑญาณ์ มารดาซินแสโชกุน ,นายก้องศรัณย์ ลูกพี่ลูกน้องของซินแสโชกุน,น.ส.ทัศย์ดาว หญิงคนสนิทของซินแสโชกุน , นางประนอม เลขานุการของซินแสโชกุน , นางณิชมน ป้าของซินแสโชกุนและเป็นมารดาของนายก้องศรัณย์ ,นางพารินธรญ์, น.ส.สุดารัตน์ และนายโกวิท ผู้ต้องหาที่ 2-10 ในข้อหาร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลนั้นเป็นเท็จน่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 3 ,14 (1) และเป็นซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210

ขณะที่ บจก. เวลท์เอเวอร์ ,น.ส.พสิษฐ์ หรือ ซินแสโชกุน กรรมการบริษัทฯ ผู้ต้องหาที่ 1-2 ยังถูกสั่งฟ้องอีกในข้อหาร่วมกันจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ควบคุมฉลากโดยแสดงฉลากไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 4 ,6(10) , 51 และสั่งฟ้อง น.ส.พสิษฐ์ หรือ ซินแสโชกุน กรรมการบริษัทฯ ผู้ต้องหาที่ 2 ในข้อหา ซื้อหรือรับไว้ของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงอากรฯที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 ทวิ

 

ขณะที่นายจิโรจน์ เอี่ยมโอภาส อัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 ได้กล่าวถึงความเสียหายว่า เบื้องต้นประมาณ 51 ล้านบาท โดยผู้เสียหายแต่ละคน มีความเสียหายแตกต่างกันไป 

ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวเสริมว่า บริษัทดังกล่าวจัดตั้งเมื่อเดือน ม.ค.60  แต่กลับสร้างความเสียหายที่รวดเร็วมาก ซึ่งคดี น.ส.พสิษฐ์ หรือซินแสโชกุน ได้ถูกฟ้องทุกข้อกล่าวหา ซึ่งความผิดร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มีอัตราโทษจำคุกสูง 5-10 ปี