เลี้ยงหมูด้วยใจ

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกชี้เทรนด์ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพ สอดคล้องโครงการเลี้ยงหมูด้วยใจ พร้อมเดินหน้าพันธะสัญญาต่อผู้บริโภคในประเด็นสวัสดิภาพสัตว์ฟาร์ม


องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) ได้ดำเนินโครงการเลี้ยงหมูด้วยใจ (Raise Pigs Rights) ในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 โดยเริ่มจากการรณรงค์เพื่อยกเลิกการใช้คอกขังแม่หมูไปสู่การเลี้ยงแบบรวมกลุ่ม เพื่อประโยชน์ต่อทั้งสวัสดิภาพของหมูและผลิตภัณฑ์เนื้อหมูที่มีความปลอดภัยสู่ผู้บริโภค ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหลายภาคส่วนทั้งในส่วนผู้ผลิตหมูและห้างค้าปลีกต่างๆล่าสุด องค์กรฯ ยังได้รับความร่วมมือจาก เทสโก้ โลตัส ร่วมประกาศพันธะสัญญาในการจัดจำหน่ายเนื้อหมูในรูปแบบแพ็คจากฟาร์มที่ไม่มีการขังแม่หมูตั้งท้องในกรงและมีการเลี้ยงแบบรวมกลุ่ม (Group Sows Housing) ภายในปีพ.ศ. 2570 ซึ่งถือเป็นความสำเร็จก้าวใหญ่ที่เกิดขึ้นจากการเรียกร้องของผู้บริโภค

ขณะเดียวกัน ทางองค์กรฯได้เตรียมการเดินหน้าสานต่อความร่วมมือตามประกาศพันธะสัญญาฯ ของห้างค้าปลีกใหญ่ หลังมีข่าวดีลธุรกิจระดับประกาศขายกิจการในประเทศไทยและมาเลเซีย เพื่อให้ผลของดีลครั้งใหญ่นี้ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบและทิศทางการดำเนินธุรกิจ ที่จะเกิดขึ้นอนาคตของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศไทยกว่า 2,000 สาขา และมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อตลาดค้าปลีกของไทย ทั้งยังมีผลต่อผู้บริโภครวมถึงวิถีชีวิตของสัตว์ฟาร์มอีกจำนวนนับล้านตัวในประเทศไทย
 

โชคดี สมิทธิ์กิตติผล ผู้จัดการโครงการสัตว์ฟาร์ม องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก กล่าวว่า“เราได้รณรงค์ไปยังภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนาสวัสดิภาพการเลี้ยงหมูในฟาร์มอุตสาหกรรม เช่น การเลี้ยงแม่หมูแบบขังคอก การตัดตอนอวัยวะลูกหมู การตัดหาง การกรอฟัน หรือการตอนสด ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้เกิดการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นจำนวนมหาศาลและเกินความจำเป็นในฟาร์ม ซึ่งนำไปสู่การเกิดเชื้อซุปเปอร์บั๊กส์ (Superbugs) หรือ แบคทีเรียที่มีฤทธิ์ต่อต้านยาปฏิชีวนะขึ้น ซึ่งเชื้อซุปเปอร์บั๊กส์นี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของมนุษย์ รวมถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”

วิกฤติซุปเปอร์บั๊กส์ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ประชากรทั่วโลกกำลังเผชิญ แต่ละปีมีคนไทยเสียชีวิตปีละกว่า 38,000 คน หรือทุกๆ 15 นาที มีคนไทยเสียชีวิตจากเชื้อซุปเปอร์บั๊กส์ 1 คน ต้นตอของปัญหานี้



ส่วนหนึ่งมาจากภาคปศุสัตว์ที่มีการเลี้ยงสัตว์อย่างไร้สวัสดิภาพ ดังนั้นองค์กรฯ จึงได้ทำงานใกล้ชิดกับผู้บริโภคเพื่อให้ความรู้และสร้างความตระหนักเรื่องความปลอดภัยทางอาหาร ผ่านการพัฒนาสวัสดิภาพสัตว์ในฟาร์มโดยเราขอให้ผู้บริโภคร่วมเรียกร้องให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วโลกมีโนบายในการจัดหาเนื้อสัตว์จากฟาร์มที่สวัสดิภาพสัตว์ที่ดีมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภค

ที่ผ่านมาองค์กรฯ ได้รณรงค์อย่างต่อเนื่องในโครงการเลี้ยงหมูด้วยใจ ผ่านสื่อต่างๆ ที่หลากหลายส่งผลให้เกิดแนวโน้มและความต้องการในการบริโภคเนื้อหมูที่มาจากฟาร์มที่ส่งเสริมสวัสดิภาพเพิ่มมากขึ้นมีผู้บริโภคร่วมลงชื่อสนับสนุนโครงการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการแชร์และแสดงความคิดในวงกว้าง ซึ่งกระแสที่ผู้บริโภคให้ความสนใจและติดตามความคืบหน้าในการปรับปรุงสวัสดิภาพสัตว์ฟาร์ม ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงของการดำเนินธุรกิจในอนาคตของห้างค้าปลีกต่างๆ ในไทย รวมถึง เทสโก้ โลตัส ที่หากจะมีการเปลี่ยนผ่านสู่เจ้าของธุรกิจรายใหม่ แต่องค์กรฯ เชื่อมั่นว่าห้างค้าปลีกชั้นนำแห่งนี้จะยังคงสานต่อนโยบายด้านสวัสดิภาพสัตว์ผ่านพันธสัญญาต่อผู้บริโภค โดยองค์กรฯ พร้อมที่จะนำข้อมูลและองค์ความรู้ต่างๆ และแผนการดำเนินงานที่คำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์ ตลอดจนใส่ใจถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเสนอเพิ่มเติมต่อทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ที่ต้องการคำแนะนำเพราะความรับผิดชอบต่อสุขภาพของผู้บริโภค เป็นภารกิจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ
ในปัจจุบัน 

 “สุดท้ายนี้ เราต้องขอบคุณเทสโก้ โลตัส ประเทศไทย ที่ได้ให้คำมั่นสัญญาต่อผู้บริโภคที่จะร่วมยุติความทารุณต่อสัตว์ในฟาร์ม เช่นเดียวกับห้างค้าปลีกอื่นๆ ทั่วโลก โดยคำมั่นสัญญาดังกล่าวถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่เพียงแต่จะทำให้แม่หมูนับล้านตัวในประเทศไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ยังสร้างความปลอดภัยต่อผู้บริโภคด้วย แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนเจ้าของใหม่ แต่เชื่อว่าโครงการที่เป็นประโยชน์ดังกล่าวจะยังคงได้รับ


การสานต่อ พร้อมกับการติดตามจากผู้บริโภคในประเทศไทยที่จะร่วมติดตามประเด็นเหล่านี้อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าคำมั่นสัญญาในประเด็นด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่เกิดจากพลังผู้บริโภคทุกคนจะได้รับการสานต่อและเกิดประโยชน์ต่อสังคมได้ในที่สุด” คุณโชคดีกล่าวทิ้งท้าย