เยียวยาพิษโควิด19 คนตกงาน ผู้ประกอบการ

วันที่ 25 มีนาคม 2563 เวลา 10.00 น. หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการแถลงข่าวมาตรการเร่งด่วนของกระทรวงแรงงานทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านต่างประเทศ ด้านป้องกัน และด้านเยียวยา เพื่อช่วยเหลือลูกจ้างที่อยู่ในสถานประกอบการและผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล ว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2563 เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด – 19 โดยกล่าวว่า ในด้านต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ทูตฯ แรงงาน สำนักงานแรงงานไทยในต่างประเทศ (สนร.) ทั้ง 12 แห่ง จัดทำฐานข้อมูลของแรงงาน เพื่อสำรวจข้อมูลแรงงานไทยที่เดินทางกลับประเทศไทย โดยจัดทำทะเบียนประวัติของแรงงาน เพื่อช่วยเหลือตามความต้องการ นอกจากนี้ กรมการจัดหางานมีมาตรการชะลอการอนุมัตินำเข้าแรงงานต่างด้าวทุกขั้นตอนตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
        
ม.ร.ว.จัตุมงคลฯ ยังกล่าวถึงมาตรการด้านการป้องกันการแพร่ระบาดภายในประเทศ โดยผ่อนปรน ให้แรงงานต่างด้าวสามารถอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้ต่อจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 มาตรการทำงานที่บ้าน (Work from Home) ของบุคลากรและรณรงค์ให้สถานประกอบการใช้มาตรการดังกล่าวด้วย การทำหน้ากากผ้าแก่ประชาชน สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์การป้องกันโรคในสถานประกอบการและผ่านสื่อทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการให้บริการประกันสังคมผ่าน E - Service และ E - Payment เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว ประหยัด ลดความเสี่ยงในการเดินทางมาติดต่อขอรับบริการที่สำนักงาน
          


สำหรับ มาตรการเยียวยาลูกจ้างผู้ประกันตนที่ไม่ได้ทำงาน เนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยที่นายจ้างรับรอง หรือนายจ้างไม่ให้ทำงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัย ให้ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ตลอดระยะเวลาที่ผู้ประกันตนไม่ได้ทำงาน แต่ไม่เกิน 180 วัน กรณีหน่วยงานภาครัฐมีคำสั่งให้นายจ้างหยุดประกอบกิจการชั่วคราว และลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนไม่ได้รับค่าจ้าง ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ร้อยละ 50 ของค่าจ้าง แต่ไม่เกิน 60 วัน ทั้งนี้ มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มีนาคม - 31 สิงหาคม 2563 กรณีเจ็บป่วยเป็นโควิด - 19สามารถรักษาฟรีได้ที่โรงพยาบาลตามสิทธิ การลดอัตราเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตนในส่วนของนายจ้าง จากเดิมร้อยละ 5 ของค่าจ้างผู้ประกันตน  เหลือร้อยละ 4 ของค่าจ้างผู้ประกันตน และผู้ประกันตนจากเดิมร้อยละ 5 ของค่าจ้างผู้ประกันตน เหลือร้อยละ 1 เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่งวดค่าจ้างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2563
         
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงาน ยังมีมาตรการเยียวยาแก่แรงงานที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชีพอิสระ ร้านค้า สถานประกอบการที่หยุดกิจการชั่วคราว ได้จัดตั้งศูนย์บริการจัดหางาน Part - time เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ผู้ที่ต้องการทำงานแบบรายชั่วโมง และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่สถานประกอบการ นอกจากนี้ จะฝึกอบรมอาชีพเศรษฐกิจพอเพียงในครัวเรือน ให้แก่กลุ่มแรงงานนอกระบบ เพื่อให้สามารถนำทักษะความรู้ไปประกอบอาชีพอิสระได้ ฝึกโดยกรมการจัดหางาน 2,000 คน เมื่อฝึกจบแล้วจะมอบเครื่องมือทำกินให้สามารถนำไปต่อยอด ให้มีอาชีพ มีรายได้ ส่วนกรมพัฒนาฝีมือแรงงานมีเป้าหมายการฝึก 7,800 คน โดยระหว่างฝึกมีเบี้ยเลี้ยงให้วันละ 150 บาท รวมกลุ่มเป้าหมายจำนวนทั้งสิ้น 9,800 คน