สธ.แถลงพบผู้ป่วยในไทยเพิ่ม 1 ราย
สธ.แถลง กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ( Novel Coronavirus;2019-nCoV) ประจำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563
1.สถานการณ์ ถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ณ เวลา 08.00 น.
1. ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 23 ราย กลับบ้านแล้ว 10 ราย รวมสะสม 33 ราย
2. ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม - 10 กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้ป่วย เข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 693 ราย คัดกรองจากสนามบิน 51 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 642 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 336 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 357 ราย
3. สถานการณ์ทั่วโลกใน 27 ประเทศ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม– 10 กุมภาพันธ์ 2563 พบผู้ป่วยยืนยัน
ติดเชื้อจำนวน 42,797 ราย เสียชีวิต 1,013 ราย ส่วนประเทศจีน พบผู้ป่วย 42,336 ราย เสียชีวิต 1,011 ราย
4. ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข สถานการณ์จะดีขึ้นด้วยความร่วมมือจากประชาชน อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง “เช็คก่อนแชร์” งดแชร์ข้อมูลผู้ป่วยทางสื่อออนไลน์ และมาจากแหล่งข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โปรดติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/ และ Line@/เฟซบุ๊ค : รู้กันทันโรค,Coronavirus2019, กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประชาชนตรวจสอบข่าวลวงได้ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม www.antifakenewscenter.com
2. สธ.พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เพิ่ม 1ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน
กระทรวงสาธารณสุข พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เพิ่ม 1 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงผู้ป่วยยืนยันรายที่ 33 ของไทย ส่วนกรณีเรือเอ็มเอส เวสเตอร์ดัม ขอเทียบท่าที่แหลมฉบัง ขณะนี้ยังไม่อนุญาตให้เรือเทียบท่าในเขตประเทศไทย
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะแถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยในวันนี้ (11 กุมภาพันธ์ 2563) คณะผู้เชี่ยวชาญ 3 ด้าน รายงานพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เพิ่ม 1 ราย เป็นนักท่องเที่ยวหญิง อายุ 54 ปี จากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นผู้สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายเดิม (รายที่ 22) ซึ่งถูกติดตามวัดไข้และสังเกตอาการทุกวัน เริ่มป่วยวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ รับเข้ารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ในห้องแยกโรค นับเป็นรายที่ 33 ของไทย ซึ่งการค้นพบผู้ป่วยรายนี้แสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นของการค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการแพร่การระบาดในวงกว้าง
กรณีเรือเอ็มเอส เวสเตอร์ดัม ขอเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ที่เป็นข่าวทางเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ เบื้องต้นกระทรวงสาธารณสุขได้ประสานไปยังการท่าเรือแห่งประเทศไทยและกรมเจ้าท่าทันที ทราบว่าตัวแทนเรือได้มีเอกสารประสานมาจริง ซึ่งเรื่องนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข จะได้มีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่นำโรคติดต่อ ไม่ว่าจากกลุ่มคนหรือคณะ เข้าสู่ประเทศแน่นอน
ทั้งนี้ โดยอาศัยอำนาจตาม ตามพ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ตามมาตราที่ 23 กำหนดให้มีคณะทำงานประจำช่องทางเข้าออก ประกอบไปด้วยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมเจ้าท่า ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เป็นต้น และมาตรา 24 เพื่อร่วมกันดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และกรณีที่มีเหตุสงสัยว่าเรือมาจากท้องที่หรือเมืองท่าที่มีโรคระบาด ได้มอบอำนาจให้เจ้าพนักงานฯ ควบคุมโรคติดต่อประจำด่าน ใช้อำนาจตามมาตรา 39 เพื่อเข้าไปตรวจผู้เดินทางให้เรียบร้อยก่อน จึงจะอนุญาตให้เรือเทียบท่าได้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานสากลเพื่อป้องกันโรคระบาดจากต่างประเทศ
และในวันนี้นายแพทย์สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 6 นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ผอ.กองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และ แพทย์หญิงหรรษา รักษาคม ผอ.สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 ชลบุรี ได้ลงพื้นที่เพื่อหารือและซักซ้อมแนวทางกับคณะทำงานประจำช่องทางเข้าออก
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยในกรณีดังกล่าว ขอยืนยันว่าขณะนี้ ยังไม่ได้อนุญาตให้เรือเข้าเทียบท่าแต่อย่างใด
สำหรับ ผลการเฝ้าระวังคนไทยที่เดินทางกลับจากอู่ฮั่น ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จำนวน 138 คน โดยวันที่ 7 ขณะนี้เฝ้าระวังอยู่ที่อาคารรับรองสัตหีบ 135 คน ทุกคนสบายดีไม่มีไข้ ส่วนอีก 3 คน ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ โรงพยาบาลชลบุรี และโรงพยาบาลสัตหีบ อาการปกติไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ยังเฝ้าระวังติดตามอาการต่อเนื่องจนพ้นระยะเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค
3. ผลการดำเนินงานที่ด่านควบคุมโรค
- ตั้งแต่วันที่ 3 – 23 มกราคม 2563 ได้เฝ้าระวังคัดกรองผู้โดยสารเที่ยวบินตรงจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และกระบี่ ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2563 ขยายเพิ่มที่ท่าอากาศยานเชียงราย และตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2563 – 10 กุมภาพันธ์ 2563 คัดกรองเที่ยวบินจาก
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทั้งขาเข้าและขาออกจากประเทศจีน สะสมทั้งสิ้น 792 เที่ยวบิน รวมคัดกรองผู้เดินทางและลูกเรือสะสม 58,362 ราย ทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนไปสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่ด่าน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง
- ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ได้คัดกรองพื้นที่ ณ ท่าเรือ 5 แห่ง (กรุงเทพมหานคร ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน ท่าเรือภูเก็ต และท่าเรือสมุย) มีผู้ได้รับการคัดกรองสะสมรวม 43,986 ราย และด่านพรมแดนทางบก มีผู้ได้รับการคัดกรองสะสม 304,736 ราย
- นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับแจกคำแนะนำสุขภาพ (health beware card) จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค
4.ข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น และปฏิบัติตามคำแนะนำ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” อย่างเคร่งครัด
ขณะที่ จีนรายงานมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ 2019 เพิ่มเป็น 42,708ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ถึง 2,484ราย เสียชีวิตแล้ว 1,017ราย เพิ่มขึ้นถึง 108ราย (นอกอู่ฮั่นและหูเป่ย 40 ราย) รักษาหายกลับบ้านแล้ว 3,998 ราย เพิ่มขึ้น 716ราย , ยอดผู้สงสัยติดเชื้อสะสม 21,675ราย เพิ่มขึ้น 3,536ราย | อัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยอยู่ที่ 3.07%
เฉพาะที่อู่ฮั่นและมณฑลหู่เป่ย มีผู้ป่วย 31,728 ราย เพิ่มขึ้น 2,097 เสียชีวิต 974ราย เพิ่มขึ้น 103 ราย หายดี 2,222 รายฮ่องกง เพิ่มขึ้น 6ราย รวม42 ราย (เสียชีวิต 1) ไต้หวัน 18 ราย (หายดี1) มาเก๊า 10 ราย (หายดี1)
ผู้ป่วยติดเชื้อลุกลามนอกจีน 24 ประเทศ ประกอบด้วย
-ญี่ปุ่น เพิ่ม 66 รายรวม 162ราย (หายดี1)
- สิงคโปร์ เพิ่ม2 รวม45 ราย
- ไทย 32 ราย (กลับบ้าน10ราย)
- เกาหลีใต้ เพิ่ม3 รวม 27 ราย (กลับบ้าน 1)
- มาเลเชีย เพิ่ม2 รวม 18ราย (กลับบ้าน1)
- ออสเตรเลีย 15 ราย(กลับบ้าน 3)
- เยอรมัน, เวียดนาม 14 ราย
- อเมริกา 12 ราย (กลับบ้าน 3)
- ฝรั่งเศส 11ราย
- UAE, อังกฤษ 8 ราย
- แคนาดา 7 ราย
-ฟิลิปปินส์ 3 ราย (เสียชีวิต1)
-อินเดีย,อิตาลี 3ราย
- รัสเชีย, สเปน 2 ราย
- ฟินแลนด์, สวีเดน, เนปาล,กัมพูชา, ศรีลังกา, เบลเยี่ยม 1 ราย
กระทรวงสาธารณสุขแรงงานและสวัสดิการญี่ปุ่น ตรวจพบผู้ที่อยู่บนเรือสำราญ ไดมอนด์ ปรินเซส ติดเชื้อไวรัสโคโรนา เพิ่ม 66 คน คน รวมผู้โดยสารบนเรือลำนี้ติดเชื้อแล้ว 136 คน จากที่มีการกักตัวไว้ 3,700คน บนท่าเทียบเรือโยโกฮาม่า ตั้งแต่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา(ต้องกัก 14วัน) รวมญี่ปุ่นติดเชื้อสะสมแล้ว 162ราย รักษาหายดี 1 ราย
สื่อจีน เผยข่าวดี ทารกวัย7เดือน ที่ติดเชื้อโคโรนาชนิดใหม่และเข้ารักษาในโรงพยาบาลเมืองเชินโจว มณฑลหูหนาน ตั้งแต่วันที่ 31ม.ค.ตอนนี้หายดีและออกจากรพ.ได้แล้ว
เรือสำราญ Westerdam ที่มีผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 2,000 ชีวิต และระหว่างทางแวะรับผู้โดยสารจากฮ่องกง ตามกำหนดจะสิ้นสุดการเดินเรือที่ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 15 ก.พ. แต่ขณะนี้ถูกญี่ปุ่นปฏิเสธไม่ให้เทียบท่า แม้จะยืนยันว่าไม่มีผู้ติดเชื้อ จึงติดต่อไปยังฟิลิปปินส์ก็ถูกปฏิเสธเช่นกัน ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกและรมว.สธ.โพสต์ FB ไม่อนุญาตให้เทียบท่าเช่นกัน หลังจากมีข่าวว่า ทางเรือประกาศจะเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบัง ในวันที่ 13 ก.พ. นี้