กลุ่มบางจากฯ ต้อนรับคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เยี่ยมชมกิจการ

 

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน และคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพลังงาน ร่วมเยี่ยมชมการดำเนินงานและรับฟังการบรรยายสรุปการทำงานของบริษัท บางจาก 


คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม ณ สำนักงานใหญ่ อาคารเอ็ม ทาวเวอร์ ถนนสุขุมวิท โดยมีนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  ผู้บริหารบางจากฯ และผู้บริหารบริษัทในกลุ่ม ให้การต้อนรับ

​นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บางจากฯ กล่าวว่า “นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่กลุ่มบริษัท บางจากฯ ได้ต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและคณะ ในวันนี้ โดยบางจากฯ ให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมมาพัฒนาธุรกิจ ร่วมไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคมเพื่อความยั่งยืนในทุกๆ กลุ่มธุรกิจของบริษัท ได้แก่ธุรกิจโรงกลั่นและค้าน้ำมัน ธุรกิจการตลาด ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ธุรกิจพลังงานชีวภาพ และธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ”

ในลำดับแรก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพร้อมคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมโครงการแลกเปลี่ยนซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยบล็อกเชน (P2P Energy Trading) ที่โครงการ T77 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้านครหลวง และพาวเวอร์ เลดเจอร์ ประเทศออสเตรเลีย โดยมีนายอภิชัย ฤทธิบุตร ผู้อำนวยการ Center of Digital Energy (CODE) บีซีพีจี เป็นผู้บรรยายความคืบหน้าของโครงการ และมีผู้บริหารแสนสิริและโรงเรียนนานาชาติบางกอกเพร็พ ร่วมต้อนรับ

โดยโครงการ P2P Energy Trading ของบีซีพีจีที่ T77 ซึ่งเริ่มดำเนินการเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2561 ได้มีการแลกเปลี่ยนไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่เกิดขึ้นจริงระหว่างอาคารที่ร่วมโครง การจากรูปแบบความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ต่างกันของแต่ละอาคาร แต่ยังไม่มีการซื้อขายไฟฟ้า เป็นโครงการที่เข้าร่วม Sandbox ของ กกพ. เพื่อทดสอบข้อจำกัดของกฎเกณฑ์ในการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างภาคประชาชน และช่วยหาทางออกเพื่อเป็นแนวนโยบายในการกำหนดใช้ต่อไปอนาคต ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้เยี่ยมชมการดำเนินงานและรับฟังการบรรยายด้วยความสนใจ

 

จากนั้น เป็นการรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานของกลุ่มบางจากฯ ที่สำนักงานใหญ่ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้กล่าวในภายหลังว่า “จากการมาเยี่ยมชมวันนี้ รู้สึกประทับใจและชื่นชมกลุ่มบางจากฯ ที่ได้มีการพัฒนาธุรกิจที่หลากหลาย เป็นผู้นำด้าน BCG Economy Model โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจชีวภาพ (Bio Economy) และธุรกิจสีเขียว (Green Economy) มีการลงทุนในสตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับด้านพลังงานและเศรษฐกิจชีวภาพทั้งในและต่างประเทศ ทำธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดจากหลายเทคโนโลยี เป็นต้นแบบการทำโครงการ Digital Energy ผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟท็อปที่โครงการ T77 และ Smart University ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมถึงสถานีบริการน้ำมันอัจฉริยะ เป็นบริษัทไทยบริษัทเดียวที่ลงทุนในธุรกิจเหมืองลิเทียมในอเมริกาใต้ซึ่งถือเป็นธุรกิจต้นน้ำของธุรกิจรถไฟฟ้าหรือ EV Cars พาหนะแห่งอนาคต ฯลฯ ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ละทิ้งการพัฒนาช่วยเหลือเศรษฐกิจฐานราก สนับสนุนชุมชนผ่านโครงการต่างๆ ที่บางจากฯ ได้ทำมาโดยตลอด

 

 

ในวันนี้ นอกจากการบรรยายสรุปการดำเนินงานแล้ว ยังได้มารับฟังความคืบหน้าโครงการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากที่ได้ฝากแนวคิดผู้บริหารบางจากฯ ไว้เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว โดยกลุ่มบางจากฯ กำลังพัฒนาโครงการใหญ่ๆ 2 โครงการโดยใช้จุดแข็งของบางจากฯ คือเครือข่ายสหกรณ์และพันธมิตรทางธุรกิจหลายร้อยชุมชนทั่วประเทศ ได้แก่โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนและโครงการนำร่อง Digital Retail Platformเป็นความร่วมมือกับพันธมิตรหลายภาคส่วนในการหาตลาดให้กับสินค้าชุมชน นับว่าเป็นเรื่องที่จะช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม ผมขอขอบคุณบางจากฯ ครับ”

นายชัยวัฒน์ กล่าวเสริมว่า “กลุ่มบางจากฯ ยินดีให้ความร่วมมือ สนองนโยบายภาครัฐเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ รวมถึงโครงการอื่นๆ ที่จะช่วยให้เกิดความเข้มแข็งของชุมชนอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนหรือโครงการ Digital Retail Platform ระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก​ ตามที่ท่านรัฐมนตรีได้กล่าวไป โดยโครงการ Digital Retail Platform จะเริ่มดำเนินการในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563​ มีการคัดเลือกสินค้าชุมชน ของดีของอร่อยที่หายาก ตรงใจผู้บริโภคกลุ่มพรีเมี่ยม สามารถส่งออกได้ มาจำหน่ายทั้งแบบออนไลน์บนแพลตฟอร์ม และที่ร้านสะดวกซื้อสพาร์ ร้านกาแฟอินทนิล และสถานีบริการน้ำมันบางจาก”

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ