ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. คาด ราคาสินค้าเกษตร ธค.ราคาเพิ่มขึ้น
ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตร เดือนธันวาคม ทั้งข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเหนียว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สุกร และ กุ้งขาวแวนนาไม มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น ด้านน้ำตาลทรายดิบ มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง
นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในช่วงเดือนธันวาคม 2562 ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาขายอยู่ที่ 7,965-7,974 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.85-0.96 เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลอิรักเตรียมลงนามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (MOU) เกี่ยวกับการรับประกันคุณภาพข้าวไทยเพื่อการส่งออกในเดือนธันวาคม ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาขายอยู่ที่ 14,831-14,920 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.70 -2.31 เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี และต่างประเทศมีความต้องการใช้ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ ประกอบกับมีการดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาของภาครัฐมาช่วยดูดซับผลผลิตข้าวออกสู่ตลาด ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาขายอยู่ที่ 14,403-14,584 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.43-2.70 เนื่องจากผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดน้อยลง สต็อกข้าวเหนียวของผู้ประกอบการลดลง และการดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกของภาครัฐ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาขายอยู่ที่ 7.65-7.72 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.50-1.50 เนื่องจากผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ออกสู่ตลาดน้อยลงในช่วงสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยว (ช่วงเก็บเกี่ยวเดือนส.ค.-พ.ย.) ขณะเดียวกันยังมีความต้องการใช้ภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ยางพาราแผ่นดิบ ราคาขายอยู่ที่ 36.47-38.45 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.08-5.52 เนื่องจากมาตรการรักษาเสถียรภาพราคายางพาราของภาครัฐ และอุปทานในตลาดที่ลดลงจากปัญหาโรคยางพาราใบร่วงชนิดใหม่ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับแนวโน้มการเจรจาสงครามการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและจีนส่งสัญญาณที่ดีขึ้น สร้างความเชื่อมั่นให้กับ นักลงทุนในตลาดซื้อขายยางพาราล่วงหน้า
ด้านสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับลดลง คือ น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาขายอยู่ที่ 12.62-12.75 เซนต์/ปอนด์ (8.43-8.52 บาท/กก.) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.50-1.50 เนื่องจากแรงเทขายของนักลงทุนและนักเก็งกำไรที่มีความกังวลเกี่ยวกับปริมาณผลผลิตน้ำตาลโลกที่อาจจะเพิ่มขึ้น จากมาตรการของอินเดียในการอุดหนุนการส่งออกน้ำตาลถึงตันละ 145-146 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยฤดูการผลิตปี 2562/63 จะอุดหนุนการส่งออกน้ำตาลสูงขึ้นถึง 6 ล้านตัน