รัฐบาลชูโมเดลบ้านมั่นคงเพื่อผู้มีรายได้น้อย ขับเคลื่อนแก้ปัญหาP-move



นนี้ (12 ต.ค. 62) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ (กอช) ได้กล่าวถึงเป้าหมายของรัฐบาลต่อการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยทั้งในเขตเมืองและชนบทว่า ตั้งเป้าไว้ที่1ล้านกว่าครัวเรือน ภายในปี 2579 สานต่อแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20ปี (‪2560-2579‬)  ซึ่งจำนวนตามที่นายจุรินทร์กล่าวนั้น แยกเป็น แผนพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในชุมชนแออัดและผู้มีรายได้น้อย หรือ 'บ้านมั่นคง' รวม 77จังหวัด  ประมาณ7แสนครัวเรือน  และแผนพัฒนาผู้มีรายได้น้อยในชนบท หรือ 'บ้านพอเพียง' ใน76จังหวัด รวม3.5แสนครัวเรือน

 

อีกทั้ง ยังสนับสนุนการสร้างศูนย์พักคนไร้บ้านและพัฒนาศักยภาพการใช้ชีวิตในจังหวัด เชียงใหม่ ขอนแก่น ปทุมธานี ด้วย นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า  นโยบายการพัฒนาที่อยู่อาศัยฯนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บ้านเป็นรากฐานของชุมชนในการแก้ปัญหาและพัฒนาสังคม อย่างไรก็ตาม ยังมีความยากและซับซ้อนต่อการขับเคลื่อนในบางกรณี เช่น หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการถือครองที่ดินและที่อยู่อาศัยในคราวเดียวกัน เป็นปัญหาที่มีความเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานและอาจเกี่ยวข้องกับข้อกฏหมาย จึงจำเป็นต้องใช้ความรอบคอบและเวลาในการดำเนินการ ดังเช่นเรื่องร้องเรียนของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ P-move  

ซึ่งคณะกรรมการกำกับติดตามเพื่อดูแลแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนที่แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี ได้รายงานความคืบหน้าต่อคณะรัฐมนตรีว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาดำเนินการแก้ไขแบบมีส่วนร่วมกับกลุ่มผู้เดือดร้อน จากเรื่องร้องเรียน 159 กรณี ดำเนินการแก้ไขปัญหาจนได้ข้อยุติแล้ว 64 กรณี และอยู่ระหว่างดำเนินการ 95 กรณี เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย มีการดำเนินการไปหลายกรณี  เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทยให้ชุมชนหนองยวน2 จ.ตรัง เช่าพื้นที่ในอัตรา 23บาท/ตารางเมตร และจะดำเนินการให้ชุมชนเช่าพื้นที่ผ่านองค์กรพัฒนาชุมชนตามขั้นตอนต่อไป ปัญหาชุมชนถูกไล่รื้อที่เทศบาลตำบลช้างเผือก จ.เชียงใหม่ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกำลังหาแนวทางช่วยเหลือทางกฏหมายเพื่อผ่อนปรนการดำเนินคดีต่อประชาชน และนำเรื่องเสนอคณะกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดเชียงใหม่เพื่อเข้าสู่กระบวนการจัดหาที่อยู่อาศัย

 

และในประเด็นกลุ่มคนไร้บ้าน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของนุษย์และกระทรวงสาธารณสุขกำลังหาแนวทางการดำเนินการและพิจารณาให้การช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลให้แก่กลุ่มคนเหล่านี้โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องของการมีเลขประจำตัว 13 หลัก  จึงเห็นได้ว่า รัฐบาลมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยในทุกจังหวัด ทั้งในเรื่องการหาทางออกกับปัญหาที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย และการจัดสรรงบประมาณเพื่อการสร้างบ้านและสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็งผ่านโครงการบ้านมั่นคงและบ้านพอเพียง 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ