ปลุกวัยเกษียณ สร้างนวัตกรรมผู้สูงอายุอธิบดี ผส. เล็งสานต่อ



สกสว.จับมือ มธ. ปลุกวัยเกษียณ  สร้างนวัตกรรมผู้สูงอายุ ลดความเสี่ยง-ความเหลื่อมสังคมสูงวัย คัด 7 ชิ้นงานสุดเจ๋ง รับโล่จากอธิบดี ผส. พร้อมโชว์ในงาน "Thailand Social Expo 2019"  5-7 ก.ค.นี้ ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ20 ปี ขณะที่ อธิบดี ผส. เล็งสานต่อ ผลักดันเป็นวาระแห่งขาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ก.ค.) ที่เมืองทองธานี สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)ร่วมกับคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม จัดแสดงนวัตกรรมผู้สูงอายุประเทศไทย ตามโครงการวิจัยเรื่องการพัฒนานวัตกรรมทางสังคมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของผู้สูงอายุประเทศไทย เพื่อตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ เพราะประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ซึ่งนวัตกรรมที่มีการออกแบบจะนำมาใช้ประโยชน์ช่วยลดความเสี่ยงของกลุ่มผู้สูงอายุ จากการเสียชีวิตด้วยเหตุที่ไม่ควรในแต่ละครัวเรือน อีกทั้งแต่ละพื้นที่มีนวัตกรรมเพื่อผู้สูงอายุที่ผู้สูงอายุคิดสร้างนวัตกรรมนั้นขึ้นมาเองและนำไปใช้ได้จริง

นางไพรวรรณ พลวัน อธิบดีกรมผู้สูงอายุ ได้มอบโล่รางวัลนวัตกรรมผู้สูงอายุ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งเป็นนวัตกรรมผู้สูงอายุที่ผ่านการประกวดจากชุมชนใน 6 จังหวัดนำร่อง คือ ลำปาง สมุทรปราการ กาญจนบุรี สระแก้ว นครราชสีมา และนครศรีธรรมราช รวม 7 ชิ้นงาน ประกอบด้วยนวัตกรรม“ถุงมือพยาบาล”จากเทศบาลตำบลเกาะคา จังหวัดลำปาง นวัตกรรม "ไม้กวาดรักษ์โลกและพรมเช็ดเท้าจากขวดพลาสติกสร้างอาชีพให้ผู้สูงอายุ” ของเทศบาลตำบลบางเมือง จังหวัดสมุทรปราการ นวัตกรรม “เครื่องออกกำลังกายเคลื่อนที่สำหรับผู้สูงอายุติดบ้าน” จากเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย จังหวัดสมุทรปราการ นวัตกรรม “กระบอกไม้ไผ่ใส่ใจการกินยาในผู้สูงอายุ” จากองค์การบริหารส่วนตำบลมะเกลือเก่า จังหวัดนครราชสีมา นวัตกรรม “บ้านสุขกาย สบายใจ: บ้านต้นแบบที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ”เทศบาลตำบลขุนทะเล จังหวัดนครศรีธรรมราช นวัตกรรม “ปุ๋ยชีวภาพจากภูมิปัญญาท้องถิ่นในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ”จากเทศบาลตำบลป่าไร่ จังหวัดสระแก้ว และจากองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเก่า จังหวัดกาญจนบุรี

           

นางไพรวรรณ กล่าวว่า จะพยายามขยายผลนำนวัตกรรมต้นแบบของทั้ง 6 จังหวัด 7 พื้นที่ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปขยายในพื้นที่อื่นๆ เพราะส่วนหนึ่งก็จะเป็นการลดปริมาณขยะ มีการนำวัสดุเหลือใช้มาสร้างเป็นนวัตกรรม ทำให้จำนวนขยะลดลง และได้ของใช้ที่มีราคาถูก อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นร้อยละ 18 ขณะเดียวกันก็จะมีการพัฒนานวัตกรรมของผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง และผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพ จับมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม

นางระพีพรรณ คำหอม หัวหน้าโครงการวิจัยเรื่องการพัฒนานวัตกรรมทางสังคมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของผู้สูงอายุประเทศไทยกล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นโครงการระยะที่ 3 ซึ่งโดยภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ มีการอบรมเชิงปฏิบัติการนวัตกรระยะสั้น 3วัน โดยมีตัวแทน 6 จังหวัดร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และวิเคราะห์ปัญหาสำคัญของผู้สูงอายุในชุมชน ให้ความรู้การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเรียนรู้กระบวนการสื่อสาร การแก้ไขปัญหาและการคิดนอกกรอบ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับกลุ่มผู้สูงอายุกันเองและให้นวัตกรผู้สูงอายุนำไปต่อยอดถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ได้รับแก่ผู้สูงอายุในชุมชนเพื่อให้เกิดนวัตกรเพิ่มขึ้น ซึ่งหลังการขยายผลในพื้นที่ต่างๆ ทำให้เกิดการสร้างนวัตกรผู้สูงอายุ และสร้างนวัตกรรมออกเป็นชิ้นงาน ที่จะนำไปใช้เพื่อการดูแลผู้สูงอายุได้จริง และพัฒนาทุกพื้นที่ให้เกิดศูนย์ต้นแบบนวัตกรรมผู้สูงอายุ นับเป็นความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เพราะเราอยากเห็นการลดความเหลื่อมล้ำของผู้สูงอายุ ทำให้เกิดความยั่งยืนในพื้นที่ ผู้สูงอายุสามารถดูแลกันเองได้ ซึ่งหวังว่าโครงการลักษณะนี้จะเกิดความยั่งยืนในพื้นที่ และมีการเชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นๆ

            สำหรับภายในงาน "Thailand Social Expo 2019"  ที่ Challenger Hall 2  เมืองทองธานี  ได้จัดเวที SHOW AND SHARE นำเสนอนวัตกรรมผู้สูงอายุเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย  พร้อมมีการจัดแสดงนวัตกรรมผู้สูอายุ ภายในงานระหว่าง วันที่ 5-7 ก.ค. 2562

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ