รักษาเกียรติ ‘รัฐสภา’

 

ไม่ง่ายอย่างที่หวังต้องการเขี่ย  “วันนอร์" ยันไม่ยึดติดตำแหน่ง แต่ต้องรักษาเกียรติรัฐสภา

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสข่าวจะมีการขอปรับเปลี่ยนตำแหน่งประธานรัฐสภา เพื่อใช้รองรับการปรับคณะรัฐในตรีให้ลงตัว ว่า ส่วนตัวไม่ยึดติดตำแหน่ง การเป็นประธานสภาฯ ครั้งแรก ก็ลาออกเพื่อไปรับตำแหน่งเลขาธิการพรรคความหวังใหม่

และตอนปี 62 ตนก็ลาออกจากการเป็น สส. เพื่อให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคในขณะนั้น ได้เข้ามาเป็น สส. เพราะ พ.ต.อ.ทวี ทุ่มเทให้กับพรรคและมีอนาคตใฝทางการเมือง ก็จะได้มีประสบการณ์การทำงานสภา ก่อนจะได้นั่งตำแหน่งรัฐมนตรี

‘ยืนยันไม่ยึดติด แต่ไม่อยากให้ฝ่ายนิติบัญญัติถูกแทรกแซง จากฝ่ายใด เนื่องจากตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ถือเป็นหนึ่งในสามเสาหลักประชาธิปไตย ที่ฝ่ายอื่นจะเข้ามาแทรกแซงไม่ได้

จึงมีการกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญว่าตำแหน่งดังกล่าวต้องเป็นกลางไม่มีพันธกับพรรคการเมือง ไม่เป็นกรรมการบริหารพรรค

และตำแหน่งที่ได้รับก็มาจากการที่มีคนเสนอชื่อตนและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโหวตเลือกให้เข้ามาทำหน้าที่

ถ้ามีการแทรกแซงให้ตนลาออก สภาฯก็จะไม่ใช่สภาฯ การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกฯที่จะเปลี่ยนแปลงได้ตามรัฐธรรมนูญ

ส่วนตำแหน่งประธานสภาฯเป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้อยู่ในวาระที่กำหนดไว้ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ยกเว้น ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ หมดวาระ หรือลาออก

ยืนยันตนไม่ยึดติดกับตำแหน่ง แต่ต้องการรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของฝ่ายนิติบัตญัติ ต้องการธำรงไว้ซึ่งหลักการเพื่อให้ประชาธิปไตยของไทยเดินไปข้างหน้า’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐบาล เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ 67  โดยคาดว่าไม่เกินเดือนเมษายน 67 ครม.เศรษฐา 2 น่าจะเรียบร้อย

ซึ่งก่อนหน้านี้ บุคคลที่จะหลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรี มีความพยายามหาที่ลง เพื่อเข้าสู่ตำแหน่ง ประธานรัฐสภา จริง จึงได้ปล่อยข่าวทวงตำแหน่งนี้เป็นระยะ

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บุคคลที่จะเข้ามานั่งในตำแหน่ง ครม.เศรษฐา 2 เป็นการจัดโปรโมชั่นรอบใหม่ หลังจากที่ให้โอกาสบุคคลที่จะหลุดออกจากตำแหน่ง ได้ทำงานมาระยะหนึ่งแล้ว

ซึ่งชื่อบุคคลที่จะหลุดออกจากตำแหน่ง ไม่มีผลงานเชิงรุกเป็นที่ประจักษ์ อีกทั้งยังมีข่าวประเด็นคนใกล้ชิด เรียกหาผลประโยชน์ และทำตัวกร่างเหนือรัฐมนตรี

โดยนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย ต่างได้ทราบอย่างหนาหูในช่วงที่ผ่านมาด้วย