สืบนครบาล รวบ'เอ้ ริมปิง' สวมรอยใช้บัญชีธนาคารับเงินโอนคืนแทนลูกค้า

 

ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวนางสาวอรพิส์ชา หรือเอ้ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 454/2564

(คดีหมายเลขดำ ที่ อ 743/2563 , คดีหมายเลขแดง ที่ อ 689/2564) ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2564

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ลักทรัพย์นายจ้าง ” ซึ่งมีพฤติการณ์สวมรอยนำเลขบัญชีธนาคารของตนเปลี่ยนแทนเลขบัญชีธนาคารของลูกค้าซึ่งจะต้องได้รับเงินคืนจากบริษัท

แล้วนำเงินไปหมุนใช้จ่ายในชีวิตส่วนตัว ก่อนจะถูกบริษัทให้ออกจากงานและหนีหายตัวไปตั้งแต่ปี 2564   

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. กำชับให้ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.  เร่งรัดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. รีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว

ต่อมาเมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2567 เวลาประมาณ 07.30 น. เจ้าหน้าที่สืบนครบาล ได้ติดตามจับกุม น.ส.อรพิส์ชา หรือเอ้ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 454/2564 (คดีหมายเลขดำ ที่ อ 743/2563 , คดีหมายเลขแดง ที่ อ 689/2564) ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2564

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ลักทรัพย์นายจ้าง ” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้านไม่ทราบเลขที่ท้าย หมู่ 10 ตำบลหนองไม้กอง อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร

ในชั้นจับกุม นางสาวอรพิส์ชา หรือเอ้ ริมปิง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนเรียนจบหลักสูตรนานาชาติตั้งแต่ระดับมัธยมจนถึงระดับมหาวิทยาลัย สาขาการตลาดอินเตอร์

หลังจากเรียนจบเคยทำงานประสานงานนักศึกษาแลกเปลี่ยน ทำอยู่ประมาณเกือบปี ก่อนจะกลับไปช่วยบ้านทำธุรกิจค่าอาหารทะเลแห้ง ต่อมาประมาณปี 2564 ตนได้มีโอกาสไปทำงานเป็นแอดมินเพจของบริษัท ขายปลีกออนไลน์ ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น

โดยทำหน้าที่คอยตอบคำถามลูกค้าที่ติดต่อสั่งซื้อสินค้าจำพวกโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ส่วนควบทุกชนิดจากเพจ

แต่เนื่องจากขณะนั้นตนประสบปัญหาทางการเงิน ประกอบกับมีปัญหากับอดีตสามี มีเหตุที่ต้องใช้เงินด่วน อีกทั้งตนมีโอกาสที่ได้คุยกับลูกค้าเนื่องจากตนเป็นแอดมินเพจของบริษัท

ซึ่งลูกค้ามีเหตุที่บริษัทต้องโอนเงินคืนให้แก่ลูกค้า พอถึงกำหนดที่บริษัทต้องโอนเงินคืน

ตนได้สวมรอยนำเลขบัญชีธนาคารของตนเปลี่ยนแทนเลขบัญชีธนาคารของลูกค้าซึ่งจะต้องได้รับเงินคืนจากบริษัท เพื่อนำเงินไปหมุนใช้จ่ายในชีวิตส่วนตัว

ทั้งนี้ตนก่อเหตุไปหลายครั้งจำจำนวนครั้งไม่ได้ ก่อนที่จะถูกบริษัทจับผิดได้เนื่องจากฝ่ายบัญชีเห็นว่าบัญชีลูกค้าที่ขอรับเงินคืนเป็นเลขบัญชีซ้ำ

ตนจึงถูกให้ออกจากงาน และได้หลบหนี ก่อนจะได้มาพบกับสามีใหม่จึงมาทำงานขายอาหารสดในพื้นที่ อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวในที่สุด   

จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ผ่านมา พบว่า นางสาวอรพิส์ชา มีประวัติเคยถูกดำเนินคดี ประกอบด้วย

1) ปี 2558 เคยถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ” ท้องที่ สภ.ช้างเผือก ภ.จว.เชียงใหม่

2) ปี 2564 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 454/2564 (คดีหมายเลขดำ ที่ อ 743/2563 , คดีหมายเลขแดง ที่ อ 689/2564) ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ลักทรัพย์นายจ้าง ”  

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ นำส่งศาลจังหวัดขอนแก่น  เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช  กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ

ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม.

แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำตามนโยบายทันที