ฝุ่น PM 2.5 : ปัญหาใหญ่
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) พร้อมด้วย ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงฯ ให้การต้อนรับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในโอกาสเดินทางมาเยี่ยมกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นครั้งแรก
เพื่อรับฟังข้อมูลสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ของประเทศไทย จากคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ ณ ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศ (Air Quality Data Center) ชั้น 7 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดินทางมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นครั้งแรก เนื่องจากเรื่องฝุ่น PM2.5 เป็นปัญหาใหญ่
ซึ่งกระทรวงฯ มีข้อมูลที่ดีออกมาแล้ว ว่าตรงไหนที่เป็น Hotspot จริง ๆ จะต้องมีการสั่งการที่ชัดเจนต่อไปว่า ขั้นตอนถัดไปจะเป็นอย่างไร
พร้อมทั้งจะต้องมีการประสานงานกับทางประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมาด้วย
ทั้งนี้ ทุกฝ่ายจะต้องพูดคุยและประสานงานร่วมกัน โดยจะนำโมเดลการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มาปรับใช้กับพื้นที่ทุกจังหวัดต่อไป
ซึ่งการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น กรุงเทพมหานคร ได้ขอความร่วมมือให้ประชาชน work from home รวมถึงหน่วยราชการต่าง ๆ ก็มีอำนาจในการบริหารจัดการอย่างเต็มที่ การหยุดระงับการก่อสร้างก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สามารถสั่งให้มีการหยุดชั่วคราวได้
ทั้งนี้ 25% ของปัญหาฝุ่น PM2.5 มาจากไอเสียรถยนต์ที่สามารถควบคุมได้ จึงต้องไปควบคุมที่ต้นเหตุมากกว่านั้น คือ การเผาวัชพืชที่มาจากจังหวัดต่าง ๆ
ส่วนในระยะยาว จะต้องมีการหารือกันต่อไป ทั้งการจำกัดรถยนต์ที่มีไอเสีย มาตรการสนับสนุนการใช้รถ EV เป็นต้น
ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ขานรับนโยบายโดยออกประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ณ สถานที่พัก (Work From Home) 25% กรณีสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) อยู่ในระดับที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
อีกทั้ง เพิ่มรายละเอียดและผู้ประสานงานในแผนภาพแสดงจุดความร้อนสถานการณ์ภาพรวมทั่วประเทศ (heat map) เพื่อใช้ในการประสานงานและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที