เพิ่มเป็น 2 ศพ จี้ อว.-ยุติธรรม เร่งแก้ปัญหารับน้องโหด


 

สืบเนื่องจากกรณี สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน จัดกิจกรรมรับน้องจนมีเสียชีวิต 1 คน โดยผู้ปกครองได้ขอความช่วยเหลือจากธิษะณา ชุณหะวัณ สส. เขต 2 ราชเทวี ปทุมวัน สาทร พรรคก้าวไกล

จนล่าสุดผู้ป่วยนักศึกษาอาการโคม่า ได้เสียชีวิตเพิ่มแล้วอีก 1 ราย

เมื่อวันที่ 15 กันยายน เวลา 08.00 น. ที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แม่นักศึกษาปี 1 สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เข้ายื่นหนังสือร้องความยุติธรรมและการเยียวยา ต่อนายวันนี นนท์ศิริ ผู้ช่วยปลัดกระทรวง อว. โดย นางสาวภัสริน รามวงศ์ หรือ กานต์ ส.ส.เขตบางซื่อ-ดุสิต พรรคก้าวไกล, ปารมี ไวจงเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ หรือ แบงค์ ส.ส.บางเขน จตุจักร หลักสี่ พรรคก้าวไกล ร่วมพูดคุยหารือเพื่อแก้ไขปัญหาในกรณีดังกล่าว และยกระดับป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวอีก

โดยเนื้อหาใจความหลักของการพูดคุยและยื่นหนังสือมีดังต่อไปนี้:

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2566 กลุ่มนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ได้จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์หรือ กิจกรรมรับน้อง บริเวณพื้นที่ในสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ปรากฏว่า เมื่อเวลาใกล้เที่ยง มีนักศึกษารุ่นพี่กลุ่มหนึ่ง จํานวนประมาณ 7-8 คน พร้อมด้วยอาจารย์ผู้ควบคุมกิจกรรม ได้จัดให้นักศึกษาผู้เข้าร่วมกิจกรรมทํา การออกกําลังกายกลางแจ้ง ด้วยการดันพื้นอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งจากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด สามารถนับจํานวนการดันพื้นได้อย่างน้อย 450 ครั้ง ส่งผลให้มีนักศึกษาผู้เข้าร่วมกิจกรรมจํานวน 2 คน ได้แก่ นายพิฆเนศ สมบุญกิจ และ นายกิตติ มณีวรรณ ได้รับบาดเจ็บ มีอาการหน้ามืดและหมดสติล้มกระแทกลงกับพื้น

ต่อมาสองนักศึกษาดังกล่าวได้ถูกนําตัวส่งไปรักษายังโรงพยาบาลกลางและโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตามลําดับ และเสียชีวิตลงในเวลาถัดมา

ผลการชันสูตรระบุสาเหตุการเสียชีวิตของ นายพิฆเนศ สมบุญกิจ ว่าเกิดจากอาการสมองขาดอากาศเป็นเวลานานจนทําให้เซลล์สมองเสียหาย

ส่วนนายกิตติ มณีวรรณ เกิดจาก ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว

การจัดให้มีกิจกรรมออกกําลังกายกลางแจ้งอย่างหนักและต่อเนื่อง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มี แสงแดดและอากาศที่ร้อนจัด โดยไม่มีการจัดระยะเวลาพักหรือความเข้มข้นในการออกกําลังกายที่เหมาะสม

ประชาชนหรือบุคคลทั่วไปที่มีวิจารณญาณ ย่อมพึงคาดหมายได้ว่า อาจทําให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับอันตราย จนถึงขั้นเสียชีวิต

ด้วยเหตุนี้ การจัดให้มีกิจกรรมออกกําลังกายของกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่และอาจารย์ผู้ควบคุม กิจกรรม จึงเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ซึ่งปัจจุบัน พนักงาน สอบสวนสถานีตํารวจนครบาลปทุมวันได้ดําเนินการให้มีการสอบสวนคดีทางอาญาแล้ว

ในการนี้ เพื่อให้การอํานวยความยุติธรรมและการชดเชยเยียวยาแก่ผู้เสียหายเป็นไปโดยรวดเร็ว ทั้งเพื่อป้องกันและยับยั้งไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก

ข้าพเจ้า กลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล จึงขอเรียนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้ดําเนินการตามข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

1. กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ต้องเร่งติดตามความคืบหน้าในการดําเนินคดี ความต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยต้องมีคําสั่งหรือดําเนินการให้ทางสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันเร่ง สอบสวนร่วมกับตํารวจในพื้นท่ีเพื่อหาตัวผู้กระทําความผิดมาดําเนินคดีโดยเร็วที่สุด

2. กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ต้องเร่งดําเนินการเข้าไปมีส่วนร่วมในการ เจรจาไกล่เกลี่ยร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เพื่อชดเชยเยียวยาแก่ญาติผู้เสียชีวิตอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม เนื่องจากสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันยังคงไม่มีความคืบหน้าในการชดเชยเยียวยาแก่ญาติ ผู้เสียชีวิต

3. กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ต้องกําหนดให้มีประกาศ กฎ หรือข้อบังคับ ให้ทุกสถาบันการศึกษาภายใต้สังกัดของกระทรวงฯ มีมาตรการในการควบคุมและป้องกันปัญหาการ ละเมิดสิทธิมนุษยชนและใช้ความรุนแรงในกิจกรรมสานสัมพันธ์ หรือกิจกรรมรับน้อง ซึ่งเป็นปัญหา เรื้อรังที่มีมาอย่างยาวนานในสังคมไทย โดยประกาศ กฎ หรือข้อบังคับดังกล่าวต้องมีลักษณะ ดังต่อไปนี้

3.1. ห้ามจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์หรือกิจกรรมรับน้อง เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัย

3.2.ห้ามจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์หรือกิจกรรมรับน้องในที่กลางแจ้งโดยไม่จําเป็นหากมีความจําเป็นต้องจัดกิจกรรมกลางแจ้ง ผู้จัดกิจกรรมต้องต้องจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมในการ ป้องกันผลกระทบจากสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม

3.3. ห้ามให้มีความรุนแรงในการจัดกิจกรรม ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย

3.4. ต้องมีการบันทึกภาพเคลื่อนไหวขณะจัดกิจกรรมตลอดเวลา

3.5. ต้องมีตัวแทนจากสถาบันการศึกษาในการดูแลกิจกรรมอย่างเคร่งครัด และต้องร่วมรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการดําเนินกิจกรรมต่อผู้ร่วมกิจกรรม ทั้งทางแพ่งและอาญา

3.6. กําหนดให้มีแบบลายลักษณ์อักษรในการขอจัดกิจกรรม ซึ่งต้องมีการะบุรายละเอียด อย่างชัดเจนและครบถ้วน เพื่อยื่นให้กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นผู้พิจารณาอนุญาต ท้ังเม่ือพิจารณาอนุญาตแล้ว ผู้จัดกิจกรรมต้องแจ้งรายละเอียดท้ังหมด แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ก่อนจะให้ความยินยอมในการเข้าร่วมกิจกรรม

3.7. ผู้จัดกิจกรรมต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หรือพยาบาลที่มีใบอนุญาตวิชาชีพ เตรียมพร้อมประจําอยู่ตลอดทั้งกิจกรรม

นอกจากนี้ กลุ่มผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกลยังส่งหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ดําเนินการดังต่อไปนี้ด้วย

1. กระทรวงยุติธรรม ต้องเร่งติดตามความคืบหน้าในการดําเนินคดีความต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดย ต้องมีคําสั่งหรือดําเนินการให้ทางสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันเร่งสอบสวนร่วมกับตํารวจในพื้นที่เพื่อหา ตัวผู้กระทําความผิดมาดําเนินคดีโดยเร็วที่สุด

2. กระทรวงยุติธรรม ต้องเร่งดําเนินการเข้าไปมีส่วนร่วมในการเจรจาไกล่เกลี่ยร่วมกับสถาบัน เทคโนโลยีปทุมวัน เพื่อชดเชยเยียวยาแก่ญาติผู้เสียชีวิตอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม เนื่องจากสถาบัน เทคโนโลยีปทุมวันยังคงไม่มีความคืบหน้าในการชดเชยเยียวยาแก่ญาติผู้เสียชีวิต