มท.1 แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.สำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์

วันนี้ (14 เม.ย. 2563) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันได้มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคติดต่อร้ายแรง ทำให้บุคคลบางกลุ่มถือโอกาสกักตุนโภคภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการเฝ้าระวังและควบคุมติดตาม การแพร่ระบาด การป้องกัน และการรักษาโรค ตลอดจนการกักตุนเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน เพื่อประสงค์ให้โภคภัณฑ์ดังกล่าวขาดแคลนในท้องตลาด ราคาจะได้สูงขึ้น ซึ่งเป็นการกระทำที่เอารัดเอาเปรียบและสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและสังคม จึงมีความจำเป็นต้องบังคับใช้พระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 อย่างจริงจัง

ในการนี้ คณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ฯ โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 มีอำนาจหน้าที่ตามที่คณะกรรมการกำหนดในเขตท้องที่ของตน โดยในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร เช่น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (ฝ่ายทหาร) ผู้อำนวยการเขตกรุงเทพมหานคร รองผู้อำนวยการเขตกรุงเทพมหานคร และข้าราชการตั้งแต่ระดับปฏิบัติการขึ้นไป สังกัดสำนักงานเขต หรือข้าราชการที่ผู้อำนวยการเขตกรุงเทพมหานครมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 ในเขตท้องที่ของตน หัวหน้าสถานีตำรวจนครบาล ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง ผู้อำนวยการกองตรวจสอบและปฏิบัติการ กรมการค้าภายใน และข้าราชการตั้งแต่ระดับปฏิบัติการขึ้นไป สังกัดกองตรวจสอบและปฏิบัติการ กรมการค้าภายใน ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่คดีพิเศษ สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้อำนวยการกองป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และข้าราชการตั้งแต่ระดับชำนาญการขึ้นไป สังกัดกองป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย สำนักการสอบสวนและนิติการ ผู้อำนวยการส่วน ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง หัวหน้ากลุ่มงาน หัวหน้าฝ่าย หัวหน้างาน และข้าราชการตั้งแต่ระดับปฏิบัติการขึ้นไป สังกัดสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ผู้อำนวยการส่วน หัวหน้ากลุ่มงาน หัวหน้าฝ่าย หัวหน้างาน และข้าราชการตั้งแต่ระดับปฏิบัติการขึ้นไป สังกัดสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง และข้าราชการตำรวจยศตั้งแต่ร้อยตำรวจตรีขึ้นไป สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หรือผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มอบหมาย

และสำหรับในจังหวัดอื่น ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ฝ่ายทหาร) ปลัดจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด พาณิชย์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด สรรพากรพื้นที่ นายอำเภอ หัวหน้าสถานีตำรวจภูธร ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่คดีพิเศษ สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้อำนวยการกองป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และข้าราชการตั้งแต่ระดับชำนาญการขึ้นไป สังกัดกองป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จ่าจังหวัด ป้องกันจังหวัด นิติกร ปลัดอำเภอ เจ้าพนักงานปกครอง ข้าราชการตำรวจยศตั้งแต่ร้อยตำรวจตรีขึ้นไป สังกัดตำรวจภูธรจังหวัด ตำรวจภูธรภาค หรือกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด หรือผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค หรือผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมอบหมาย ข้าราชการพลเรือนสามัญตั้งแต่ระดับปฏิบัติการขึ้นไปสังกัดสำนักงานพาณิชย์จังหวัดที่ปฏิบัติราชการในส่วนภูมิภาค และข้าราชการอื่นที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยเหลือพนักงานเจ้าหน้าที่

และได้มีประกาศคณะกรรมการฯ เรื่อง กำหนดระยะเวลาทำการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ของพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อกำหนดระยะเวลาทำการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ของพนักงานเจ้าหน้าที่ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่น โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ในการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ในเขตท้องที่ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2563 ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ออกประกาศ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563


นอกจากนี้ได้มีประกาศคณะกรรมการฯ เรื่อง กำหนดพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ และแบบเอกสารในการดำเนินการ เพื่อกำหนดผู้มีอำนาจในการออกหนังสือสอบถามและหนังสือเรียกมาให้ถ้อยคำ และการออกประกาศการแจ้งปริมาณและสถานที่เก็บโภคภัณฑ์ และห้ามการยักย้ายโภคภัณฑ์ออกจากสถานที่เก็บ หรือเปลี่ยนแปลงสภาพของโภคภัณฑ์ การอนุญาตให้ยักย้ายโภคภัณฑ์ออกจากสถานที่เก็บ หรือเปลี่ยนแปลงสภาพของโภคภัณฑ์ และการออกคำสั่งบังคับขาย คำสั่งยึดและบังคับซื้อโภคภัณฑ์

รวมทั้งได้ออกประกาศคณะกรรมการฯ เรื่อง กำหนดวิธีการขายโภคภัณฑ์ การยึดและบังคับซื้อโภคภัณฑ์ เพื่อกำหนดวิธีการ ราคา และปริมาณ ในการสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองโภคภัณฑ์ขายโภคภัณฑ์ และการปิดประกาศสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองโภคภัณฑ์ขายโภคภัณฑ์ การกำหนดวิธีการ ราคา และปริมาณ ในการยึดและบังคับซื้อโภคภัณฑ์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่สำรวจพบว่ามีการกักตุน ในกรณีต่าง ๆ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อดำเนินการกับบุคคลบางกลุ่มที่ฉวยโอกาสแสวงหาผลประโยชน์ด้วยการกักตุนสินค้า เพื่อให้เกิดผลดีต่อพี่น้องประชาชนและประโยชน์สาธารณะต่อไป