ตร. แจ้ง3ข้อหา มือปาระเบิด ม็อบกปปส. -ส่งตัวเข้าเรือนจำ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) เปิดเผยว่า คดีปาระเบิดใส่กลุ่มกปปส. เมื่อ 4 ปีที่แล้วนี้ ศาลอาญา ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 4 ราย โดยจับกุมได้แล้วทุกคนเหลือเพียงนายกฤษดา ไชยแค ที่เป็นผู้ต้องหาคนเดียวที่หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน จนล่าสุดนายกฤษดา ได้เดินข้ามแดนมาขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะถูกกดดันอย่างหนักจากทางการกัมพูชาที่ทำงานประสานร่วมกับเจ้าหน้าที่ไทย รวมทั้งเงินที่มีผู้ส่งมาให้ตัวเองใช้เป็นประจำเดือนละ 30,000 บาทนั้นเริ่มเหลือน้อยไม่พอใช้จ่าย จึงตัดสินใจเข้ามอบตัวในที่สุด ส่วนใครเป็นผู้ให้เงินทุกเดือนนั้นยังไม่ขอเปิดเผย โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งขยายผลต่อไป

 


พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ได้แจ้งข้อหาแก่นายกฤษดา ตามหมายจับของศาลใน 3 ข้อหา คือ พยายามฆ่าผู้อื่น, ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธ ปืน ระเบิด ไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และในช่วงสายของวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายกฤษดา ไปขออำนาจศาลอาญา ฝากขังผัดแรก โดยศาลอนุมัติการฝากขังและขณะนี้ได้ควบคุมตัวไปไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครแล้ว

 


จากรายงานข่าวระบุว่า นายกฤษดา ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ก่อเหตุปาระเบิดใส่กลุ่มกปปส.จริง  2 ครั้ง ครั้งแรกคือที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งหน้าโรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 20 ราย ส่วนครั้งที่สองคือบริเวณถนนบรรทัดทอง ที่ปาระเบิดใส่ขบวนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส.ในขณะนั้น โดยหลังก่อเหตุก็ได้หนีไปอาศัยอยู่ประเทศเพื่อนบ้านมาตลอด 4 ปี และไม่ต้องประกอบอาชีพใดๆ จนได้มอบตัวในที่สุด ส่วนข่าวที่ว่านายกฤษดา ถูกตั้งค่าหัวล่าตัวเป็นเงิน 700,000 บาทนั้นเป็นเรื่องจริง โดยเป็นรางวัลนำจับของเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ทราบว่าเป็นของหน่วยงานใด ทั้งนี้ ผู้ต้องหา อ้างว่า เป็นกลุ่มการเมืองแนวหัวรุนแรง โดยร่วมกับเพื่อนที่ก่อเหตุตั้งกลุ่มขึ้นพร้อมหาอาวุธต่างๆ มาเก็บไว้เพื่อก่อเหตุ และที่ผ่านมาก็มีส่วนร่วมในการก่อเหตุอื่นๆ มาแล้วกว่า 10 ครั้ง