ศาลจำคุก16ปี "เณรคำ"พรากผู้เยาว์-อนาจารดญ.นับโทษต่อคดีเดิมรวม36ปี

ที่ห้องพิจารณา 701 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษา คดี “สมีเณรคำชำเราผู้เยาว์” ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 ยื่นฟ้อง “นายวิรพล สุขผล” อดีตพระฉายาวิรพล ฉัตติโก หรือ เณรคำ อายุ 39 ปี อดีตประธานสงฆ์สำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ที่ทางการสหรัฐอเมริกาส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมาได้เมื่อปี 2560 เป็นจำเลย ในคดีหมายเลขดำ อ.2340/2560 ความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคสาม (อัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-40,000 บาท) และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีซึ่งไม่ใช่ภริยาตนฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก (อัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 8,000-40,000 บาท)

กรณีกล่าวหาว่า เมื่อเดือน ม.ค.2543-กลางปี 2544 จำเลย ได้พรากเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี จากผู้ปกครองไปข่มขืนกระทำชำเรา เป็นเวลา 2 ปี จนมีบุตร 1 คน อันเป็นความผิดตามกฎหมาย ซึ่งพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ แต่ระหว่างดำเนินคดีจำเลยได้หลบหนีไปประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาอัยการสูงสุดดำเนินการขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งทางการไทยได้รับตัว “นายวิรพล” มาจากประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 19 ก.ค.60 ที่ผ่านมา และอัยการยื่นฟ้องดำเนินคดีในวันที่ 20 ก.ค.60 ตามพยานหลักฐานที่ได้รวบรวมไว้ทันที ทั้งนี้ การพิจารณาคดีชั้นศาล “นายวิรพล” จำเลย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าไม่ได้กระทำผิดและเด็กที่เกิดมาก็ไม่ใช่บุตรของตนเอง



โดยนับตั้งแต่ได้รับตัวกลับมาดำเนินคดี “นายวิรพล” ก็ไม่ได้รับการประกันตัว ซึ่งวันนี้ศาลได้เบิกตัวจำเลยจากเรือนจำเพื่อฟังคำพิพากษา

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่าคดีนี้ โจทก์มีผู้ปกครอง และเด็กผู้เสียหายช่วงเกิดเหตุปี 43 อายุ 14 ปีเศษ เบิกความสอดคล้องบันทึกคำให้การถึงรายละเอียด ช่วงเวลาตั้งแต่จำเลยขับรถยนต์มารับผู้เสียหายที่ 2 ไปอนาจารกอด จูบ และข่มขืนกระทำชำเรา หลายครั้ง หลายหน จนกระทั่งผู้เสียหายย้ายไปจังหวัดอื่น เพราะกลัวผู้อื่นจะรู้เรื่อง โดยยังมีพนักงานสอบสวนร่วมเบิกความด้วย ซึ่งพยานไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองจำเลยมาก่อน จึงเชื่อว่ายากที่จะปั้นแต่งให้เรื่องตัวเอง-ครอบครัวอับอาย และขณะเกิดเหตุจำเลยใช้ความเป็นพระภิกษุที่ประชาชนให้ความเคารพศรัทธากระทำผิดกับเด็กนักเรียนเพียงชั้น ม.2 ทำให้พระพุทธศาสนามัวหมอง จึงเห็นควรให้ลงโทษสถานหนักให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 16 ปี และให้นับโทษจำเลยในคดีฉ้อโกงประชาชนมารวมด้วยอีก 20 ปี จึงจำคุก 36 ปี
  

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ