ศาลพิพากษาประหารชีวิต"ไซซะนะ"นักค้ายาเสพติดข้ามชาติ

ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาให้ประหารชีวิต นายไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติดชาวลาวกับพวกรวม2คนคดีที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ฟ้อง ในความผิดฐานสมคบกันค้ายาเสพติดข้ามชาติ จำนวน1ล้านเม็ด แต่ให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีลดโทษ1ใน3คงจำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ฟ้องด้วยอีกคนพิพากษายกฟ้อง 

 

ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดียาเสพติด หมายเลขดำ อย.2833/2560 ที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายไซซะนะ แก้วพิมพา ชาว สปป.ลาว, นายชุมพร พนมไพร และนายรัชพล หรือกิมเล้ง รัฐสพลพกรณ์ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานสมคบกันค้ายาเสพติดฯ คำฟ้องคดีนี้สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 24 ก.ค.- 16 ก.ย. 2558 จำเลยที่ 1-2 กับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง บังอาจสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปโดยแบ่งหน้าที่กันทำในรูปขบวนการเครือข่ายยาเสพติด โดยจำเลยที่ 1 กับพวกที่อยู่ใน สปป.ลาว ร่วมกันจัดหาเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า และจัดหาเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการลักลอบขนส่งลำเลียงยาเสพติดและจัดหารถยนต์สำหรับซุกซ่อนยาเสพติดจำนวน 2,381,400 เม็ดไปส่งให้กับเครือข่ายทางภาคใต้ของไทย และมาเลเซีย

ต่อมาระหว่างวันที่ 17 - 22 ส.ค. จำเลยทั้งสาม ร่วมกันสมคบกันลักลอบส่งยาบ้าจำนวน 1 ล้านเม็ด ส่งให้เครือข่ายทางภาคใต้โดยติดต่อกับนายไซนุเด็ง มะ ที่ประเทศมาเลเซียโดยจำเลยที่ 3 ทำหน้าที่ธุรกรรมการเงินรับโอนเงินค่ายาเสพติดจากนายไซนุเด็ง หลายครั้งหลายหนจำนวน 144 ล้านบาทไปส่งมอบให้เพื่อนของจำเลยที่ 1 ที่ สปป.ลาว เพื่อสะดวกในการกระทำผิด

ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมพวกจำเลยได้พร้อมของกลางหลายรายการ อาทิ ยาเสพติด รถยนต์กระบะที่ใช้กระทำผิด โทรศัพท์มือถือและอื่น ๆ เหตุเกิดที่ สปป.ลาว, จ.นครพนม, จ.อุดรธานี, จ.สงขลา และอีกหลายพื้นที่เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 100/1, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91 และอื่น ๆ จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธโดยตลอด

วันนี้ศาลเบิกตัวจำเลยทั้งสามซึ่งไม่ได้รับการประกันตัว จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางมาฟังคำพิพากษา

โดยต่อมา ศาลได้พิพากษาว่านายไซซะนะและนายชุมพร จำเลยที่ 1-2 กระทำผิดฐานสมคบกันค้ายาเสพติด 1 ล้านเม็ด เมื่อช่วงเดือน ส.ค. 2559 หลังจากมีพยานหลักฐานข้อมูลการใช้โทรศัพท์ติดต่อกันให้จัดหารถกระบะมือสองซุกยาบ้ารับจาก สปป.ลาว ไปส่ง ให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1-2 แต่คำให้การชั้นสอบสวนและคำเบิกความบางส่วนของจำเลยที่ 1-2 เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1-2 ไว้ตลอดชีวิต และให้นับโทษนายไซซะนะต่อจากยาบ้าคดีแรกจำนวน 1.2 ล้านเม็ด ที่ศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตไปแล้วด้วย ให้ยกฟ้องนายรัชพล จำเลยที่ 3 ที่ถูกกล่าวหารับโอนเงินค้ายา เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยตามสมควร และศาลพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสามในส่วนที่ถูกกล่าวหาสมคบค้ายาบ้าจำนวน 2,381,400 เม็ดด้วย เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยตามสมควร

ทั้งนี้ หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น มารดาและครอบครัวของจำเลยที่ 3 ร่ำไห้เข้าโอบกอดจำเลยที่ 3 ทันทีด้วยความดีใจที่ศาลยกฟ้อง