สธ.- สสส. สร้างประวัติศาสตร์ปั่นจักรยาน 4 ภาค เลิกบุหรี่

สธ.- สสส.สร้างประวัติศาสตร์ปั่นจักรยาน 4 ภาค เลิกบุหรี่ พร้อมชวนคนไทยตระหนักลดละเลิกบุหรี่ ประกาศเป็นตัวอย่างที่ดีด้านสุขภาพทั้งตนเอง ครอบครัวและสังคม ตั้งเป้าภายใน 3 ปี เลิกบุหรี่ได้ครบ 3 ล้านคน ชี้ 2 ปี ช่วยคนเลิกบุหรี่ได้มากกว่า 1.2 แสนคน มากกว่าช่วงเวลาปกติมีคนเลิกบุหรี่ถึง 4 เท่า

ที่บริเวณลานหน้าเสาธง กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)  นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์  รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดกิจกรรม “6 x 4รวมใจ ปั่น ปลุก ลุก สร้างกระแสรณรงค์โครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทยเทิดไท้องค์ราชัน ปีที่ 3” ภายใต้แนวคิด “ปั่นปอดยิ้ม” และ เชิญ ชวน คนไทย ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ ปั่นเลิกบุหรี่ และประกาศเจตนารมณ์ เป็นตัวอย่างที่ดีด้านสุขภาพ โดยมี กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) สมาคมหมออนามัย สมาคมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข และชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน กว่า 500 คนร่วมกิจกรรม ภายในงานมีพิธีมอบเหรียญเชิดชูเกียรติและเกียรติบัตรแก่นักปั่นหลักที่ปั่นตลอดสายจำนวนกว่า 200.คน พร้อมส่งมอบรายชื่อผู้สมัครใจเลิกบุหรี่ จากทั่วประเทศให้กระทรวงสาธารณสุข โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปี (2559-2562) คือวันที่ 30 พ.ค.62 จะมีจำนวนผู้เลิกบุหรี่ครบ 3 ล้านคน  ทั้งนี้ปลัด สธ.ได้ร่วมติดสติกเกอร์ “ปั่นปอดยิ้ม” บนจักรยานของนักปั่น  ซึ่งเป็นการออกแบบของคู่รักนักปั่นรอบโลกคู่แรกของไทย  คุณเจริญ  และอรวรรณ  โอทอง

นพ.โอภาส การย์กวินวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โครงการ 6x4 ปั่น ปลุก ลุก สร้าง เป็นโครงการที่ชาวสาธารณสุขได้รวมพลังเป็นตัวอย่างที่ดีด้านสุขภาพ และทำให้คนไทยทั่วประเทศ สมัครใจเลิกบุหรี่หันมาดูแลสุขภาพ ภายใต้โครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ ทั่วไทย เทิดไท้ องค์ราชัน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พบว่า คนไทยสมัครใจเลิกบุหรี่ได้มากถึง 1.2ล้าน คน และมีผู้เลิกบุหรี่ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป 1.3  แสนคน ซึ่งน่ายินดียิ่งที่คนไทยทั้งประเทศเห็นถึงพลังของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพ นำไปสู่สุขภาพที่ดีทั้งตนเอง ครอบครัวและสังคม อีกทั้งยังช่วยประเทศลดค่าใช้จ่ายการบริการภาครัฐได้ โดยที่ผ่านมาพบว่า ความสูญเสียจากการสูบบุหรี่ในไทย คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์ ปีละ75,000 ล้านบาท หากไทยลดนักสูบลงได้ จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางสุขภาพของประเทศลงได้มาก  และเป็นไปตามเป้าหมายที่จะลดอัตราการสูบบุหรี่ลง ร้อยละ30หรือ ลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ไม่น้อยกว่า 1.8 ล้าน คนในปี 2568 ตามมติองค์การอนามัยโลก ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศมีงบประมาณนำไปพัฒนาด้านอื่นๆ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไป


ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล รองผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในหลวงรัชกาลที่ 9 และเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งจะครบรอบเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 อีกทั้งเป็นการแสดงพลังของสาธารณสุขอำเภอและหมออนามัยทั่วประเทศ ทำกิจกรรมมุ่งสู่การลดละเลิกปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ รณรงค์ไม่สูบบุหรี่และส่งเสริมการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน ที่จะช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญทั้งการดูแล  สุขภาพของตนเอง ครอบครัว รวมทั้งสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับสังคม  ลดการสูบบุหรี่ที่มีสารเคมีอันตรายมากถึง 600 ชนิด และเมื่อผ่านการเผาผลาญแล้ว ก่อให้เกิดสารพิษมากกว่า 7,000 ชนิดและอีก 70 ชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง การนำกิจกรรมปั่นจักรยานเข้ามารณรงค์ ขณะออกกำลังกายร่างกายจะหลั่งสารเอนโดรฟิน หรือสารสร้างความสุข ทำให้ผู้สูบบุหรี่มีความสุขและลดการอยากสูบบุหรี่ ซึ่งหากทำเป็นประจำจะทำให้เลิกสูบบุหรี่ตามที่ตั้งใจไว้ได้  สอดคล้องกับข้อมูลที่พบว่า การปั่นจักรยาน100 ชั่วโมง ช่วยลดอัตราการตายลงร้อยละ10และการปั่นจักรยาน 1 ชั่วโมง ช่วยให้ชีวิตยืนยาวขึ้นอีก1ชั่วโมง  การปั่นจักรยานจึงเป็น กุศโลบายที่ดีที่ในการเลิกบุหรี่   ตรงตามที่คู่รักนักปั่นจักรยานรอบโลกคู่แรกของไทยยืนยันไว้ว่า  สำหรับคนที่สูบอยู่หากตั้งใจปั่น   จะทำให้เขาลืมเรื่องการสูบเพราะมุ่งปั่นในการปั่นและเห็นชัดเจนเรื่องสุขภาพกับการทำลายสุขภาพ  ที่ต้องเลือกซึ่งจะทำให้เขาเลิกไปเองอย่างภาคภูมิใจ   สสส. ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหักในกิจกรรมครั้งนี้จึงหวังว่าการสร้างกระแสปั่นเลิกบุหรี่ในครั้งนี้จะทำให้คนไทยรักสุขภาพ  เลิกบุหรี่กันมากขึ้น

ด้าน นายมงคล เงินแจ้ง นายกสมาคมหมออนามัยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เครือข่ายหมออนามัย โดยสาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอทั่วประเทศ 878 อำเภอ เป็นแกนนำแสดงพลังผลักดันการขับเคลื่อนองค์กร และเครือข่าย โดยออกมาปั่นจักรยานจากทั่วทุกภาคทั้งประเทศ มีทีมปั่นทั้งหมด 8 สาย ผ่าน 63 จังหวัด โดยมีผู้บริหารของทรวงสาธารณสุข ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอทุกอำเภอที่ผ่าน เข้าร่วมกิจกรรมและขานรับพร้อมสนับสนุนโครงการ ซึ่งมีความหมายถึงการร่วมมือรวมพลังการทำงานของ 6 องค์กรหลัก ปั่นจักรยานเพื่อมาแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันทั้ง 4 ภาค ของประเทศ เพื่อเชิญชวนให้คนไทย สมัครใจเลิกบุหรี่ให้ได้ 3 ล้านคน ตามเป้าหมาย  ทั้งนี้จากข้อมูลใน เว็บไซต์ของ Quitforking พบว่า กว่า 2 ปี ของโครงการ 3 ล้าน 3 ปี ฯ มีผู้สูบบุหรี่สามารถเลิกได้ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปถึง 4 เท่าจากช่วงเวลาปกติ ที่มีผู้เลิกบุหรี่เฉลี่ยเพียง 30,000 คน ต่อปี  และเป็นจำนวนที่สูงมาก เมื่อเทียบกับในช่วงเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ดังนั้น การรวมใจ ปั่น ปลุก ลุก สร้างกระแสครั้งนี้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ทำคนไทยทั้งประเทศเห็นถึงพลังการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และร่วมสร้างประวัติศาสตร์พลังหมออนามัย ประกาศเจตนารมณ์เลิกสูบบุหรี่ และสนับสนุนการลดปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพอย่างชัดเจน