นายกฯ ห่วงใยสวัสดิการประชาชนทุกกลุ่ม

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงข้อเรียกร้องของประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน(คปค.) และสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทยที่ต้องการให้ภาครัฐดูแลสิทธิประโยชน์และสวัสดิการแก่กลุ่มลูกจ้างเหมาบริการในส่วนราชการ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 4 - 5 แสนคนว่า “รัฐบาลห่วงใยประชาชนทุกกลุ่ม โดยออกกฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้รับสวัสดิการอย่างทั่วถึง แต่บางทีอาจรู้สึกว่าไม่เท่าเทียมกัน จึงต้องไปดูข้อเท็จจริงด้วยว่าเป็นเพราะอะไร อย่างไรก็ตาม จะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาเรื่องนี้บนพื้นฐานความเป็นไปได้”

นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานว่า ลูกจ้างเหมาบริการเป็นการดำเนินการตามมาตรการปรับขนาดกำลังคนภาครัฐ ซึ่งเป็นมติ ครม.เมื่อ26 พ.ค.41 ที่ให้ส่วนราชการยุบตำแหน่งข้าราชการที่เกษียณอายุและลูกจ้างประจำที่ว่างลง โดยให้ทบทวนงานที่สามารถถ่ายโอนให้เอกชนรับไปดำเนินงานแทน จึงเป็นที่มาของการจ้างเหมาบริการ ซึ่งยึดถือปฏิบัติกันมาทุกรัฐบาล

ทั้งนี้ ลักษณะงานที่จ้าง คือ การซื้อบริการจากผู้รับจ้างเป็นรายชิ้นเช่น งานรักษาความปลอดภัย งานทำความสะอาด งานแปล ผลิตเอกสาร งานผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ ฯลฯ โดยการจ้างเหมาเอกชนดำเนินงานนี้ยึดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมุ่งผลสำเร็จของงานที่ว่าจ้างภายในช่วงเวลาที่กำหนดตามสัญญาการจ้างเท่านั้น เอกชนผู้รับจ้างไม่ต้องอยู่ภายใต้ระเบียบข้อบังคับที่ลูกจ้างของส่วนราชการโดยทั่วไปต้องถือปฏิบัติ

เมื่อไม่อยู่ในระเบียบดังกล่าว ผู้รับจ้างทำของจึงไม่ใช่บุคลากรภาครัฐ และไม่ได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนกับที่ข้าราชการ ลูกจ้างส่วนราชการ และบุคลากรอื่นของรัฐ รวมทั้งไม่มีความสัมพันธ์กับส่วนราชการในลักษณะนายจ้างและลูกจ้างตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ส่วนราชการจึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องนำส่งเงินสมทบในส่วนของผู้ว่าจ้างเข้ากองทุนประกันสังคม

“นายกฯ ย้ำว่า หากผู้รับจ้างประสงค์ที่จะรับสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน ก็สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ของพ.ร.บ. ประกันสังคมได้ โดยจ่ายเงินสมทบเอง เช่น จ่ายเดือนละ300 บาท ก็จะได้รับเงินทดแทนหากต้องหยุดงานเพราะเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ วันละ 300 บาท รวมทั้งเงินสงเคราะห์บุตร เงินทดแทนการทุพพลภาพ เงินค่าทำศพ ฯลฯ ส่วนสิทธิรักษาพยาบาลก็สามารถใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพหรือบัตรทองได้เช่นเดียวกับคนไทยทุกคน”