ผบ.ตร. แถลงคดีหวย30ล.ไม่ชัดออกหมายเรียกบุคคลที่3 ยันไม่มีมวยล้ม

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าคดีหวย 30 ล้านบาท ถึงกระแสข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีนั้น ที่ผ่านมาได้ขอเวลาให้ตำรวจสอบสวนทำงาน หลังจากรับโอนคดีมาจากจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งทางกองปราบได้สรุปสำนวนออกหมายจับครูปรีชา ใคร่ครวญ ใน 3 ข้อหา คือ แจ้งความเท็จ / ให้การเท็จต่อพนักงานสอบสวนทำให้ผู้ให้ได้รับโทษทางอาญา /  และ กลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษหนัก 

พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการ ปปป. เปิดเผยถึงความชัดเจนในการดำเนินคดีกับตำรวจที่เกี่ยวข้อง พบว่าในการทำการสอบสวนในคดีที่นายปรีชา แจ้งความดำเนินคดีกับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล นั้นพบว่าเป็นการสอบสวนโดยมิชอบด้วยกฏหมาย คือ การที่ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี สั่งให้แก้ไขคำให้การกลมกลืนกัน เช่น การเปลี่ยนแปลง วันเวลาที่เกิดเหตุ เป็นต้น


เบื้องต้นจึงได้กันพนักงานสอบสวนในคดี 2 นาย ไว้เป็นพยาน และดำเนินคดีตาม ม.157 ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กับ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล เพียงคนเดียว 

ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า ตอนแรกคำให้การของ ร.ต.ท.จรูญ ให้การไม่รู้เรื่อง จึงดูไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งขัดกับ นายปรีชา ที่ให้การสอดคล้องต้องกันทุกแบบ พล.ต.ต.สุทธิ จึงปักใจเชื่อว่าเป็นของครูปรีชา แต่ตนเองได้บอก พล.ต.ต.สุทธิ แล้วว่าตำรวจไม่ควรทำงานด้วยความเชื่อ และไม่ควรเปลี่ยนแผลงคำให้การ พร้อมยืนยัน พล.ต.ต.สุทธิ ไม่ได้ทุจริต แต่ทำงานไม่รอบคอบ เพราะในคดีนี้ยังไม่มีใครได้เงินไป พอโอนย้ายคดีมายังตำรวจสอบสวนกลางจึงสืบสวนตามแนวทางของเจ้าหน้าที่อย่างละเอียด จนนำไปสู่การออกหมายจับไปแล้ว 2 คน ยืนยัน พล.ต.ต.สุทธิ และภรรยา ไม่มีความรู้จักเป็นการส่วนตัวกับเจ๊พัช เจ๊เกียว และ เจ๊บ้าบิ่น ส่วนจะมีการพิจารณาออกหมายจับกับกลุ่มแม่ค้าที่เข้ามาให้การหรือไม่นั้น ตำรวจจะคำนึงถึงความเป็นธรรม และความสะดวกของประชาชนเป็นตัวตั้ง ที่เกิดเหตุมี 3 คน แต่ศาลพิจารณาออกหมายจับแล้ว 2 คน ส่วนอีก 1 คนอยู่ระหว่างพิจารณา ถ้าไม่เข้าขอกฎหมายจำเป็นจะไม่ออกหมายจับ แต่อาจทำเเค่เพียงการออกหมายเรียกเท่านั้น


ด้าน พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการกองวินัย (ผบก.วน.) เปิดเผยถึงพฤติการณ์ของ พล.ต.ต.สุทธิ อยู่ระหว่างพิจารณาว่าผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ ส่วนจะต้องให้ออกจากราชการหรือพักราชการไว้ก่อนต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจผู้บัญชาการในต้นสังกัด 

ขณะที่ พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่าคดีนี้แบ่งออกเป็น 3 คดีคือ 1. ครูปรีชากล่าวหา ร.ต.ท.จรูญ ซึ่งคดีนี้จบแล้ว คดีที่ 2 ร.ต.ท.จรูญกล่าวหาครูปรีชา และ คดีที่ 3 ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.สุทธิ ซี่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีในคดีที่ 2และ3 เท่านั้น

นอกจากนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยถึงคดีเปรมชัย ว่าตนเองดูคดีนี้อย่างใกล้ชิด เพราะเป็นคดีใหญ่ที่ประชาชนสนใจ แต่ตอนนี้ยังไม่พบพิรุธของการทำงานของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ มีหน้าที่เข้าไปดูแลการสอบสวนเท่านั้น ซึ่งหากพบพิรุธในการปฎิบัติหน้าที่ของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ จะสั่งเปลี่ยนคณะทำงานและลงไปแก้ไขด้วยตนเองทันที ยืนยันไม่มีการปรับย้ายทีมทำงานในคดีนี้