กรุงเทพโพลหนุนประยุทธ์นายกฯลดลง



กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง เส้นทางการเลือกตั้งสู่ประชาธิปไตยไทยนิยม โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,114 คน  คิดอย่างไรกับ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งที่ต้องมีสมาชิกพรรคครบ 500 คน มีทุนประเดิมจำนวน 1 ล้านบาท  (เลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) พบว่า ร้อยละ 43.9 สร้างระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ เน้นพรรคมากกว่าตัวคน  ร้อยละ 29.6 ขาดความหลากหลายของนโยบายการหาเสียง  ร้อยละ 29.1 จะนำไปสู่ระบบผูกขาดทางการเมือง  ร้อยละ 26.8 ทำให้มีพรรคใหญ่ให้เลือกได้ชัดเจน  ร้อยละ 22.3 มีจำนวนพรรคการเมือง นักการเมืองมีให้เลือกน้อย

สอบถามว่า คิดอย่างไรกับการเลือกตั้งที่จะมาถึง ในเรื่องการสรรหานายกฯ คนนอก ตามบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญ ร้อยละ 70.6 คิดว่านายกฯ ควรมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น  ร้อยละ 29.4 คิดว่านายกฯ มาจากคนนอกได้หากไม่สามารถเลือกกันเองได้

การจัดมหรสพ รื่นเริงในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. (เลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) พบว่า ร้อยละ 41.5 อาจเปิดช่องโกง แสวงหากำไรและผลประโยชน์ ร้อยละ 40.5 พรรคใหญ่ๆ จะได้เปรียบเพราะมีทุนมากกว่า ร้อยละ 37.3 จะทำให้ประชาชนสนใจการเมือง รับรู้ข่าวสารของผู้สมัครได้ทั่วถึง  ร้อยละ 26.3 เป็นการสร้างการตื่นตัว ทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งคึกคัก

คิดอย่างไรกับแนวคิดประชาธิปไตยไทยนิยม ร้อยละ 29.1 เห็นว่าจะไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆเลย  ร้อยละ 27.9 เห็นว่าจะทำให้กลายเป็นประชาธิปไตยกึ่งรัฐบาลทหาร  ร้อยละ 22.5 เห็นว่าทำให้คนปรองดองไม่ขัดแย้ง ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ร้อยละ 20.5 เห็นว่าทำให้ประเทศพัฒนาไปในทิศทางที่ชัดเจน

 

ส่วนคำถามที่ถามว่า หากวันนี้ ท่านมีสิทธิออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี ท่านจะออกเสียงสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 36.8 ระบุว่าจะสนับสนุนต่อ ลดลงจากผลสำรวจเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ที่อยู่ที่ ร้อยละ 52.8 ลดลง ร้อยละ 16.0 ขณะที่ร้อยละ 34.8 ระบุว่า ไม่สนับสนุน และร้อยละ 28.4 งดออกเสียง