เหรียญหล่อวัดนางสาว สมุทรสาคร

0…เสนอชมเหรียญหล่อโบราณวัดนางสาว ได้ชื่อว่าเป็นของดีราคาถูก ปลุกเสกโดยหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
สร้างทั้งหมด 3 พิมพ์ คือพิมพ์พระพุทธชินราช, พิมพ์สมาธิซุ้มปรกโพธิ์และ พิมพ์พระปิดตาปรกโพธิ์  แต่ที่นำมาให้ชมเป็นพิมพ์สมาธิซุ้มปรกโพธิ์ และ พิมพ์พระปิดตาปรกโพธิ์ซึ่งเป็นพิมพ์ที่นิยมสุดในจำนวน 3 พิมพ์ ค่านิยมที่เช่าหากันอยู่ที่หลักพันจนถึงหลักหมื่นในสภาพสวยครับ

0...ในพ.ศ.2464 หลวงปู่แก้ว เจ้าอาวาสวัดนางสาว อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาครได้สร้างอุโบสถหลังใหม่ จึงได้มีดำริที่จะหล่อพระประธานเพื่อประดิษฐานในอุโบสถหลังใหม่นี้ พร้อมกับสร้างพระเครื่องขึ้นมา 3 พิมพ์โดยเป็นพระโลหะผสมหล่อแบบโบราณ คือพิมพ์พระปิดตาปรกโพธิ์, พิมพ์สมาธิซุ้มปรกโพธิ์ และพิมพ์พระพุทธชินราช โดยเป็นโลหะผสมชนิดเดียวกับที่หล่อพระประธาน และได้นิมนต์ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ 

0...ขนาดของพระที่หล่อ มีขนาดกว้างประมาณ 1.5 ซม. ยาวประมาณ 2.5 ซม. ทั้ง  3 พิมพ์มีขนาดเท่ากันหมด โดยเป็นการเททองหล่อแบบโบราณใช้แม่พิมพ์แบบพระแผง จำนวนหลายองค์วางเรียงกัน เมื่อเทโลหะผสมลงบนแม่พิมพ์ พอเย็นแล้วก็นำแผงพระมาตัดแบ่งออกเป็นองค์ๆ จุดพิจารณาสำคัญของพระพิมพ์นี้ คือ หากดูด้านข้างจะเห็นเนื้อพระมีเป็น 2 ชั้น ของปลอมส่วนใหญ่เนื้อพระจะไม่เป็น 2 ชั้น แต่มีรอยตะไบ 


0...พระรุ่นนี้นอกจากหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ในฐานะประธานฝ่ายสงฆ์แล้วยังมีเกจิอาจารย์ชื่อดังร่วมปลุกเสกมากมายเช่น หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม, หลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน,หลวงพ่อห้อย วัดหอมเกร็ด, หลวงพ่ออาจ วัดดอนไก่ดี, พระอาจารย์พา วัดระฆังฯ, หลวงปู่แก้ว วัดนางสาว เป็นต้น

0...วัดนางสาว เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยา มีอายุมากกว่า 400 ปี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มีเรื่องเล่าว่า มีชาวไทยกลุ่มหนึ่งอพยพหนีภัยสงครามพม่า มาอาศัยวัดร้างแห่งนี้ พม่าได้ติดตามมาทัน จนเกิดการสู้รบกันขึ้น โดยชายไทยฉกรรจ์เข้าต่อสู้กับทหารพม่า ส่วนเด็ก ผู้หญิง และคนชรา พากันหลบหนีเข้าไปอยู่ในโบสถ์เก่าหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นโบสถ์มหาอุด ไม่มีหน้าต่าง มีเพียงประตูเข้าทางเดียว ในขณะนั้นมีผู้หญิง 2 คนซึ่งเป็นพี่น้องกัน ได้ตั้งจิตอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโบสถ์ว่า หากรอดพ้นจากภัยอันตรายครั้งนี้ได้ จะบูรณะโบสถ์หลังนี้ และเสนาสนะต่างๆ ในวัดนี้ให้ดีขึ้น ปรากฏว่าการสู้รบชายฉกรรจ์ชาวไทยชนะทหารพม่า ทุกคนที่หลบซ่อนอยู่ในโบสถ์มหาอุดต่างปลอดภัย
 
0...ต่อมาพี่น้องสองสาวจึงคิดที่จะบูรณะโบสถ์และวัดตามที่ได้อธิษฐานไว้ แต่คนพี่เห็นว่าเป็นโบสถ์เก่ายากการแก่การบูรณะ จึงได้ไปสร้างวัดขึ้นใหม่อีกวัดหนึ่ง ชื่อว่า วัดกกเตย แต่ชาวบ้านมักจะเรียกว่า วัดพี่สาว ส่วนหญิงคนน้องได้ครองตัวเป็นโสด ได้บูรณะโบสถ์และวัดร้างดังกล่าว ตามที่ได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้จนสำเร็จ ชาวบ้านเรียกชื่อวัดนี้ว่า วัดพรหมจารีราม แต่คนส่วนใหญ่มักจะเรียกว่า วัดน้องสาว ต่อมาได้เพี้ยนกลายเป็น วัดนางสาว จนถึงทุกวันนี้

จากกันด้วยข้อคิด"สิ่งที่เรามองเห็นด้วยตา ล้วนแต่กำหนดโดยกิเลสของเราเอง เปรียบเสมือนการมองเหรียญบาท หากเรามองใกล้จะเป็นขนาดใหญ่ หากเรามองไกล จะเป็นขนาดเล็ก หากเราเข้าใจและละได้ กิเลสย่อมระงับไป"

เขียน : นายกองตรีอ้วน [email protected]