ยังไม่สิ้นสงสัย ไทม์ไลน์ ช่วงก่อนน้องเมยเสียชีวิต

วันที่17 ตุลาคม 2560  ภา พวงจรปิดที่โรงเรียนเตรียมทหารเผยออกมาว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่ก็กลับมีคำถามคาใจและข้อสงสัยในภาพที่ปรากฎ 

เวลา 10.00 น. ระบุว่าไม่มีกล้องวงจรปิด เป็นช่วงที่น้องเมยเกิดอาการเป็นลมล้มลง บริเวณทางขึ้นกองแพทย์ และเจ้าหน้าที่กองแพทย์นำส่งห้องพยาบาล และเมื่ออาการเป็นปกติ ได้พักรักษาตัวอยู่ ณ กองแพทย์ ไม่มีภาพตลอดทางระหว่างนำตัวเข้าห้องพยาบาลเลยใช่หรือไม่ เป็นลมจริงหรือไม่

ภาพต่อมาเวลา 14.12น. น้องเมยได้ยืนพูดคุยกับ พ.อ.หญิง ยุพร ที่เป็น ผช.ผอ.กองแพทย์ฯ จากนั้น พ.อ.หญิง ยุพรฯ ได้พาน้องเมย เข้าไปคุยต่อในห้องรับรอง เพื่อหารือเรื่องที่ นตท. ภคพงศ์ฯ ไม่สบายใจ เป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ไม่มีการเปิดเผยว่าเรื่องที่ไม่สบายใจคือเรื่องอะไร และหากน้องเมยเพิ่งเป็นลมอยู่ ทำไม พ.อ.หญิง ถึงยังจับมือเพื่อไปคุย และไม่ปรากฎภาพในช่วงที่คุยด้วย 


15.12 น. น้องเมยเดินออกมาพบ พ.อ.หญิง ยุพรฯ ที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์กับแม่ของเมยพ.อ.หญิง ยุพรฯ คุยเสร็จแล้วจึงให้ เมยโทรศัพท์พูดคุยกับพ่อแม่ น้องใช้เวลาคุยอีก12 นาที ซึ่งช่วงเวลานี้เองแม่ของน้องบอกว่า น้องพูดเป็นคำสุดท้ายว่า "อย่าเชื่อผู้พัน" ระหว่างนั้นคุยเรื่องอะไรยังไม่มีการเปิดเผย 


15.24 น. เมยไม่สามารถคุยโทรศัพท์ต่อได้ เนื่องจากเหรียญโทรศัพท์หมด จึงวางหูโทรศัพท์ และในขณะเดินออกมา ได้ใช้มือขวากุมหน้าอกด้านซ้ายของตนเอง ซึ่งในการแถลงของแพทย์ระบุว่า พบรอยบอบช้ำบริเวณชายโครงด้านซ้าย หน้าอกขวา และกระดูซี่โครงด้านขวาหัก 1ซี่

ต่อมา 15.41 น. จ.ส.อ.วัชรินทร์ฯ (เสื้อขาว) ได้รับการร้องขอจากพ่อของเมยให้นำโทรศัพท์ของตนไปให้ในห้องพักฟื้นเพื่อสนทนาต่อเมย และขณะนำโทรศัพท์ไปให้ก็พบว่า เมยกำลังจะล้มลง 


มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ที่น้องเมยที่ผ่านการทดสอบฝึกซ้อมร่างกาย-จิตใจ จนเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมทหารได้ จะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่วนภาพที่ปรากฎก็ยังมีข้อสงสัยหลายอย่างที่ยังไม่มีคำตอบ

 

#กองทัพตอบที พี่สาวไม่เคลียร์ 
#ขอหรือไม่ขออนุญาตเก็บอวัยวะภายในน้องเมย

#ผลชันสูตรละเอียดอยู่ไหน หัวใจวายเฉีบพลันได้อย่างไร
#ถูกซ่อมถูกแดกจนหัวใจหยุดเต้น ใครสั่ง

#กองทัพไม่เคลียร์
ดูเหมือนว่าแม้ทางกองทัพโดยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จะยอมรับว่าได้เก็บอวัยวะภายในทั้งชิ้นไป ทั้งหัวใจ สมอง และกระเพาะอาหาร ไว้ตรวจพิสูจน์ และยืนยันว่าได้ขออนุญาต และได้แจ้งในการส่งกลับคืนแล้ว แต่ดูเหมือนบางอย่างยังย้อนแย้ง และยังมีข้อสงสัยบางอย่างที่ครอบครัวของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิตปริศนา และมาพบว่าอวัยวะภายในของน้องหายไปในการผ่าชันสูตรศพ ยังไม่เคลียร์ 

#สาเหตุหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันเพราะอะไร
นางสาวสุพิชา ตัญกาญจน์ พี่สาว “น้องเมย” เปิดใจว่าที่กองทัพแถลงเมื่อวานแพทย์ทหารบอกว่าได้ขอเก็บอวัยวะภายในไว้ตรวจอย่างละเอียดผ่านตนนั้น ความจริงบอกว่าขอเก็บไว้บางส่วนไม่ได้นำออกไปทั้งชิ้นและหลายชิ้นแบบนี้  และตามหลักน่าจะต้องระบุไว้ในรายงานชันสูตรศพ แต่ถึงตอนนี้ผลชันสูตรอย่างละเอียดจากที่นำไปตรวจก็ยังไม่ได้ ว่าน้องหัวใจล้มเหลวเฉียบพลับเพราะอะไร ทำไมถึงกล้าฟันธงทั้งที่ผลตรวจละเอียดยังไม่ออกมา และได้ระบุไหมว่าได้ขออนุญาตเก็บชิ้นส่วนอวัยวะ ถึงตอนนี้ก็ยังรออยู่

#"ก่อนเมยตายใครสั่งธำรงวินัย"
นางสาวสุพิชา พี่สาวบอกว่าที่เช้าวันที่16ตุลาคม ก่อนวันที่เมยเสียชีวิต1วัน ถูกรุ่นพี่สั่งธำรงวินัย (ซ่อมหรือโดนแดก) ที่โรงเลี้ยงจนสลบไป ซึ่งเรื่องนี้รุ่นพี่และเพื่อนนักเรียนายร้อยด้วยกันยืนยันว่ามีจริง เพียงแต่เป็นการซ่อมรวมไม่ได้ซ่อมเดี่ยว ก่อนหน้านี้ 23 สิงหาคม เมยเคยถูกรุ่นพี่ธำรงวินัยด้วยท่าต้องห้าม โดยให้เอาหัวปักพื้น แล้วแกว่งขาด้านบนไปมา ซึ่งอาจอันตรายถึงชีวิต จนน้องเมยหยุดหายใจไปชั่วขณะโชคดีแพทย์ช่วยไว้ได้ทันจึงรอดมาได้ และเป็นการธำรงวินัยนอกเวลาที่กำหนดในช่วงดึกของวันนั้น ซึ่งทางโรงเรียนก็บอกว่าน้องไม่มีความผิด ไม่ผิดแล้วรุ่นพี่สั่งธำรงวินัยได้อย่างไร เรื่องนี้เคยขอดูหลักฐานกล้องวงจรปิดกับโรงเรียนนายร้อยไปแล้วก็รับปากแต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้ดู  และที่อยากรู้คือใครเป็นคนสั่ง

 

เขียน : อานนท์ ศรีเปลี่ยนจั่น

ภาพ : โรงเรียนเตรียมทหาร