27 กันยา : พิพากษา"ยิ่งลักษณ์"

แม้จะมีความชัดเจนระดับหนึ่ง สำหรับกรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หายตัวไป หรือหลบหนี ไม่เข้าฟังคำพิพากษาคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ในโครงการรับจำนำข้าว แต่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้เหตุผลว่ายังไม่สามารถชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดได้ ด้วยพยานหลักฐาน ยังไม่สมบูรณ์ 

และนอกจากประเด็นที่ไม่สามารถจับกุมตัว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาแสดงตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามกำหนดนัดอ่านคำพิพากษา ในวันที่ 27 กันยายนนี้แล้ว พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยังประเมินสถานการณ์ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะไม่มาปรากฎตัวต่อศาลฯ ตามคำสั่งหรือหมายจับแน่..

นับจากวันนี้...ไปถึงกำหนดวันที่ศาลฯ..ถ้าสังเคราะห์จากคำพิพากษาคดีทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจี เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 จะมีประเด็นให้เชื่อมต่อถึงคำพิพากษาในคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ในโครงการรับจำนำข้าว ก่อให้เกิดการทุจริต เป็นเหตุให้รัฐเสียหาย ..จะเห็นว่าในคำพิพากษาคดีทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจีนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. 

และถ้าพลิกไปดูคำพิพากษาคดีทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจี จะเห็นว่าช่วงต้นของคำพิพากษา คือการรวมคำฟ้อง 2 คดีเข้าด้วยกัน เมื่อเข้าสู่หน้าที่ 21 ไล่ไปจนถึงหน้าที่ 40 คือภาพรวมของพฤติการณ์และข้้อพิรุธ ซึ่งสาระสำคัญส่วนนี้ พอจะทำให้เห็นเหตุผลที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องหายตัวไป หรือหลบหนี-ไม่เข้าฟังคำพิพากษาคดี เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่าน

เหตุผลแรกที่พอจะประเมินได้ นั่นก็เพราะว่าการพิจารณาแต่งตั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งหมายถึงนายภูมิ สาระผล หรือแม้แต่การปรับ ครม. แล้วแต่งตั้งนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คือการตัดสินใจและการทำหน้าที่ในฐานะ "นายกรัฐมนตรี" 

และจากการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา "23 สิงหาคม 2554" ก็เป็นอำนาจหน้าที่โดยชอบของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีนโยบายจำนำ..สร้างความมั่นคงด้านรายได้ให้แก่เกษตร จากนั้น"8 กันยายน 2554" ก็มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. และมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

ประชุมนัดแรก "9 กันยายน 2554" นางสาวยิ่งลักษณ์เป็นประธาน มีนายภูมิ สาระผล ร่วมประชุมอยู่ด้วย ที่ประชุมรับทราบปริมาณข้าวในโกดังตามโครงการ "12 กันยายน 2554" ประธาน กขช. มีคำสั่งแต่งตั้งอนุกรรมการ 6 คณะจากนั้น ก็เข้าสู่การสับเปลี่ยนตำแหน่งระหว่างนายภูมิและนายบุญทรง 

ประกอบกับ ฝ่ายเลขานุการ กขช. เสนอยุทธศาสตร์ระบายข้าว 5 วิธี โดย 1 ในนั้น คือ การขายแบบรัฐต่อรัฐ โดยหลังที่ประชุม กขช.เห็นชอบ ครม.ก็เห็นชอบ และเพียง 5 วันนับจากนั้น การขายข้าวแบบจีทูจี ก็เริ่มต้นขึ้น ก่อนจะเป็นที่มาของคำพิพากษาคดีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ และนายภูมิ สาระผล

มีข้อสังเกตว่า สตง.เคยมีหนังสือเสนอให้ ครม. ขายตลาดและเจาะตลาดใหม่ กระทรวงการคลัง เคยเสนอให้เร่งระบาย แต่ต้องรายงาน ครม.และคลัง ทุกวันที่ 7 ของเดือน หรือแม้แต่ กขช. ที่ให้รายงาน ไม่น้อยกว่า 3 ครั้งต่อปี ก่อนจะเป็นหนังสือจาก ป.ป.ช. ถึงนายกรัฐมนตรี ชี้ความไม่โปร่งใสที่เกิดขึ้น

และสุดท้าย..ก็กลายเป็นประเด็นให้ฝ่ายค้าน ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี  และการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก่อนจะเป็นคำร้องถึง ป.ป.ช. และเป็นข้อกล่าวหาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มา..ที่ไป และส่วนหนึ่งของคำพิพากษา น่าจะพอเห็นภาพและเห็นเหตุผลว่า ทำไม"อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์"ถึงต้องหายตัวไป และกลายเป็นเสียงยืนยันจากกองเชียร์ ว่า"หนี"..คือยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุด  

เขียน : ต้นไม้ politics