นายกฯปัดประวิตรไปอังกฤษซื้ออาวุธ-ไม่รู้บ.กระทิงแดงได้เช่าทีป่าห้วยแม็ก

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการเดินทางไปสหราชอาณาจักรของพล.อ.ประวิตร ว่า ไปตามคำเชิญของรัฐมนตรีกลาโหมของอังกฤษ เชิญไปดูการจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งมีประจำทุกปี ถือเป็นเรื่องสำคัญของหน่วยงานความมั่นคง พล.อ.ประวิตรก็ต้องไปดู ไปพบปะพูดคุยและเยี่ยมเยือน กับรัฐมนตรีหลาย ๆ ประเทศ ไม่ได้หใายความว่าเราจะไปซื้ออะไรเพิ่ม ยืนยันว่าเราไม่มีแผนที่จะซื้ออะไร เพราะการที่จะซื้อของจะต้องกำหนดถึงความต้องการก่อนว่า มีความต้องการอย่างไร แค่ไหน และปีอะไร เสร็จแล้วถึงจะมาตั้งคณะกรรมการจัดซื้อ จัดหาอีกครั้ง แล้วก็ตองไปพิจารณาว่ามีบริษัทไหนสนใจ หรือจะมีในลักษณะของรัฐบาลต่อรัฐบาล และการตัดสินใจเราจะไม่คำนึงถึงยุทโธปกรณ์ หรือราคาถูกอย่งเดียว แต่ต้องดูไปถึงการบริการหลังการขายด้วย

 

"ขอร้องว่าอย่าไปพาดหัวข่าวว่า รัฐบาลไปไหนทีก็เป็นการไปซื้ออาวุธใหม่ เราไม่ได้มีเงินทองมากมายขนาดนั้น ทั้งหมดจะต้องดูแผนพัฒนากองทัพว่าอะไรต้องจัดซื้อใหม่ อะไรต้องจัดซื้อทดแทน ที่ผ่านมาทุกวันนี้มีการซ่อมจำนวนมาก ยิ่งซ่อมยิ่งพังเพราะมันเก่ามาก การซ่อมก็ต้องดูถึงความคุ้มค่าด้วย ซึ่งเรามีคณะกรรมการในแต่ละเหล่าทัพพิจารณาอยู่แล้ว บางครั้งเราก็ต้องซื้อมาทดแทนบางส่วนบ้าง เพราะบางครั้งก็หมดอายุการใช้งานพร้อมกันก็มี ก็จำเป็นต้องทยอยจัดซื้อ การจัดซื้ออาวุธเราขั้นตอนแบบนี้ อย่าไปมองแง่เดียวว่าเราได้ผลประโยชน์ ได้ใต้โต๊ะกันตรงไหน จุดนี้ก็ต้องไปสอบกันอีกเรื่องหนึ่ง การทำงานแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย"นายกฯ กล่าว 

 

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่กระทรวงมหาดไทยอนุมัติให้บริษัทในเครือกระทิงแดง เช่าพื้นที่ป่าชุมชนห้วยแม็ก จ.ขอนแก่นว่า ตนก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเป็นบริษัทเครือกระทิงแดง ตนถามพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็ไม่รู้เรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องการทำงานปกติ เริ่มมาจากท้องถิ่น อำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัด เขาเสนอขึ้นมา เพื่อขอใช้พื้นที่ต่าง ขณะนี้กำลังสอบสวนข้อเท็จจริงว่าไม่มีข้อมูลแนบท้ายมาให้พิจารณาว่ากรณีดังกล่าวมีปัญหาหรือไม่ และไม่รู้ว่าเป็นลูกหลานใคร ฉะนั้นอย่าเอามาเป็นประเด็นเกี่ยวข้องกัน กระทรวงมหาดไทยกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีชาวบ้านแจ้งว่ามีการสวมชื่อในกระบวนการจัดทำประชาพิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีกี่คนที่ร้องเรียนมา และทำประชาพิจารณ์เท่าไร 16 ล้านกว่าเสียง จะร้องเรียนกี่คนเดี๋ยวกระทรวงมหาดไทยเขาตรวจสอบอยู่ แต่ไม่ใช่ว่ามีข่าวอย่างนี้มา แล้วทั้งหมดจะล้มเหลว ประชาพิจารณาไม่ถูกต้องทำงานอย่างนี้ก็ตายเหมือนกัน ก็ต้องไปดูใครผิดใครถูก ถ้ามันผิดจริงก็ตัดคนเหล่านี้ออกไป ไม่ใช่ว่าถูกสวมสิทธิทั้งหมดเสียเมื่อไร คิดแบบนี้ ไม่เช่นนั้นทำงานไม่ได้