ชัดแล้ว80% เส้นทาง"ยิ่งลักษณ์"หนี

นอกจาก ชุดสืบสวนสอบสวน โดยพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว มีรายงานจากฝ่ายความมั่นคง ว่าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้จัดชุดสืบสวนสอบสวน กรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หายตัว หรือหลบในคืนวันก่อนศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ในโครงการรับจำนำข้าวด้วย

และในช่วง 2 สัปดาห์เต็มนั้น สำหรับชุดสืบสวนสอบสวน ได้สรุปเส้นทางหลบแล้ว หลังตั้งสมมุติฐานไว้ 4 เส้นทาง และเป็นที่มาของคำให้สัมภาษณ์ โดยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กรณีพบภาพจากกล้องวงจรปิด ว่าอดีตนายกรัฐมนตรีนั่งรถยนต์ส่วนบุคคล ใช้เส้นทางบริเวณหน้าด่านทหาร จังหวัดสระแก้ว  และขณะนี้กำลังติดตามตัวผู้ขับรถ ซึ่งถือเป็นผู้ให้การช่วยเหลือมาให้ปากคำ

นั่นเท่ากับว่า ข้อมูลทั้งหมดนี้กำลังจะประมวลสรุปแล้ว เพราะมีรายงานว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เล็งจะตั้งโต๊ะแถลงข้อเท็จจริง..ในสัปดาห์นี้ และถ้าประเมินตามรายงานข่าว ที่อ้างอิง และยืนยันว่าข้อมูลที่ได้ตอนนี้ ก็น่าจะสรุปแล้วร้อยละ 80 ในความชัดเจนทั้งหมด และน่าจะชัดเจนระดับหนึ่งสำหรับข้อมูลที่ รัฐบาล หรือ คสช.จะแถลงชี้แจงได้  

และได้ในที่นี้ ก็ต้องแก้ข้อครหาประเด็นที่ว่า "เปิดทางให้หนี"ได้ด้วย และข้อสังเกตนี้ก็น่าจะสืบเนื่องให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ตัดสินใจให้สัมภาษณ์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยสรุปคืบหน้าในการสืบค้น คือ พบภาพจากกล้องวงจรปิด..ซึ่งเป็นภาพสุดท้าย ก่อนการหายตัวไป ในคืนวันที่ 23 สิงหาคม คือ ภาพรถยนต์ส่วนบุคคล หรือรถเบนซ์เก๋ง ที่ขับผ่านบริเวณด่านทหาร จังหวัดสระแก้ว แต่กล้องวงจรปิด ไม่พบภาพ..ว่าขับผ่านด่านไป นี่คือข้อมูลอัพเดทสุดจากการเปิดเผยของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ

และการให้สัมภาษณ์นี้ ก็สอดรับกับข้อมูลที่พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมายอมรับถึงแนวทางการสืบสวน ก็มุ่งเน้นไปในทางเดียวกัน หลังพบหลักฐานต้องสงสัยว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปทางด้านจังหวัดสระแก้ว และที่ตรงกันคือ ใช้รถโดยสาร เป็น..รถเก๋ง ซึ่งมีคนขับ

และข้อมูลที่ว่านี้ ก็มาพร้อมๆกับ รายงานจากฝ่ายความมั่นคง กรณีที่ว่า นอกจากทีมของตำรวจได้รับมอบหมายภารกิจนี้แล้ว ฝ่ายความมั่นคง ยังมีคณะทำงานของฝ่ายทหาร ที่กำลังสืบค้นข้อมูลการหลบหนี หรือการหายตัวไป ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรอยู่ด้วยและเป็นทีมงานเดียวกับที่เคยทำคดีเหตุระเบิดแยกราชประสงค์และคดีเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

โดยข้อมูลที่ได้ คือการหลบหนี หรือหายตัวไปในวันที่ 23 สิงหาคม ก่อนวันศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษา 1 วัน และจากข้อมูลแวดล้อมที่ได้ เชื่อว่าเป็นการตัดสินใจเร่งด่วน-ฉับพลัน และพบว่าตลอดทั้งวันนั้น อดีตนายกรัฐมนตรี มีพฤติการณ์ผิดปกติ โดยเฉพาะการสลับรถใช้งานในวันเดียวกันนั้น ถึง 4 คัน ตั้งแต่รถแบบ HVR -ฟอร์จูนเนอร์แล้วสลับไปเป็นรถเก๋ง-เบนซ์ ก่อนจะเป็นรถตู้-โฟล์ค และสุดท้าย คือเก๋ง-คัมรี่

และจากข้อมูล 4 เส้นทางที่นักการเมืองส่วนใหญ่ใช้เดินทางหลบหนี ทีมสืบสวนสอบสวนของฝ่ายทหาร ก็พบเหตุต้องสงสัยที่ชัดที่สุด ว่าน่าจะใช้เส้นทางในภาคตะวันออก ผ่านจังหวัดสระแก้ว เพราะอีก 3 เส้นทาง หลังสืบค้นแล้ว ไม่พบว่าเหตุต้องสงสัยอื่น ทั้งการใช้เส้นทางในภาคใต้ ผ่านจังหวัดสงขลา ด่านสะเดา, เส้นทางในภาคตะวันออก ผ่านจังหวัดจันทบุรีหรือตราด หรือเส้นทางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรืออีสาน ในจังหวัดหนองคายหรืออุบลราชธานี  

แต่แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคง ย้ำว่า ข้อมูลทั้งหมดนี้ ยังเป็นข้อมูลเบื้องต้น ที่ต้องหาพยานแวดล้อมเพิ่มเติมอีก เพราะล่าสุดก็เชิญตัวบุคคลที่คาดการณ์ว่าจะเป็นผู้ขับรถ ให้อดีตนายกรัฐมนตรี มาให้ปากคำแล้ว ไม่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากนายตำรวจระดับผู้กำกับมากนัก และจากมาตรการของด่านทหาร ที่ถูกพาดพิง อย่างด่านของกองกำลังบูรพา หรือกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์นั้น 

มาตราการ ตรวจค้นรถ จะเข้มงวดกับรถที่เข้ามาประเทศ เนื่องจากต้องดูแลเรื่องผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย แต่สำหรับรถที่ออก จะตรวจค้นเฉพาะรถต้องสงสัย หรือรถที่หน่วยข่าวแจ้งเตือนมา และกรณีนี้ ก็ไม่ได้มีการแจ้งเตือนและในคืนวันที่ 24 สิงหาคมนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ยังไม่เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา

และถ้าจะประเมินจากภาพรวม อาจเป็นไปได้ ว่าเร็วๆ นี้จะแถลงข่าว แต่ก็น่าสังเกตว่า ในสภาวะที่ รัฐบาลและคสช. เตรียมแถลงชี้แจง เพื่อลบข้อครหาการเปิดทางให้หลบหนีนั้น ในโลกโซเชียล ก็ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำเปิดเผยของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ กันหลายแง่หลายมุม ในขณะเดียวกัน ก็ยังนำข้อมูล ไปล้อเลียน แชร์ภาพตัดต่อ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ นั่งบนรถสองแถวข้ามชายแดนไทยไปประเทศเพื่อนบ้าน นี่อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่รัฐบาลและคสช.ต้องเร่งแถลงชี้แจงความชัดเจนด้วย 

เขียน : ต้นไม้ politics