สัมพันธ์ คสช.- "ยิ่งลักษณ์"

ถ้านับจากข้อมูลที่มีอยู่ตอนนี้ เท่ากับว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หายตัวไป รวม 12 วันแล้ว และไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคงของ คสช. - ของกองทัพ หรือของตำรวจ ยังไม่มีฝ่ายใด ระบุชัดถึงเส้นทางการหลบหนี-ไม่ฟังคำพิพากษาคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ในศาลฎีกานักการเมือง มีแต่การคาดการณ์ว่า หลบหนีออกนอกประเทศ

เป็นเหตุให้คำว่า "วิน-วิน" เกิดขึ้นท่ามกลางกระแส ที่หลายๆ ฝ่ายจับตามองปฏิกริยาของ คสช. และพรรคเพื่อไทย หรือคนในตระกูลชินวัตร มีข้อตกลงทางการเมืองหรือไม่ และทางออกที่ดี..ที่สุดของ คสช. คือคำยอมรับว่า"บกพร่อง-หละหลวม"ในการปฏิบัติหน้าที่ ก่อนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมอบภารกิจนี้ให้พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล 

แต่สถานการณ์บ้านเมือง หรือการเมือง หลังนางสาวยิ่งลักษณ์-หายตัวไป ก็มีหลายฝ่ายพูดว่าเหมือน คสช. จะยกภูเขาออกจากอกได้ หรือบางฝ่ายพูดกันถึงขนาดว่า นี่คือทางออกสำหรับสถานการณ์บ้านเมืองและการเมืองไทย เพื่อความสงบเรียบร้อย

ถ้าจะประเมินกันจริงๆ คงต้องฟังจากฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะผู้ที่ได้ชื่อว่า "ประกาศจะโค่นล้มระบอบทักษิณ" อย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำกลุ่ม กปปส. ที่ออกมาชี้ว่าสถานการณ์ทั้งการเมืองและบ้านเมือง อาจสงบเรียบร้อยแค่ช่วงแรกๆเท่านั้น นั่นเพราะพรรคเพื่อไทย ยังคงประกาศจะเดินหน้าทางการเมือง ในขณะเดียวกันเชื่อว่า นายทักษิณ ชินวัตร หรือนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีในต่างประเทศ ย่อมต้องมี.."นอมินีทางการเมือง" คนต่อไป

ก่อนจะย้ำว่า จะมีอิทธิพล-บทบาท กับการเมืองไทยนับจากนี้..มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับประชาชน ว่าจะเปิดทางในอนาคตซ้ำรอยอดีต..อีก หรือจะปิดเกม..จบ ระบอบทักษิณไว้แค่..วันนี้

ไม่แปลกที่ผู้ที่เคยประกาศจะโค่นล้มระบอบทักษิณ ซึ่งครั้งหนึ่งหมายถึง หลักคิดและแนวทางของนายทักษิณ ชินวัตร ต่อการบริหารบ้านเมืองไทย จะประเมินฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองได้ใกล้เคียงที่สุด นั่นเพราะย่อมอ่านเกมกันออก 

และนอกจากนายสุเทพแล้ว ต้องบอกว่า พรรคประชาธิปัตย์ ก็น่าจะประเมินสถานการณ์นี้ ได้เป็นอย่างดีเช่นกัน จากการพูดคุยเบื้องต้นกับคนในพรรคประชาธิปัตย์ สังเคราะห์จากพฤติการณ์เดิมของนายทักษิณ และวิเคราะห์ถึงอนาคต ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ 2 ทาง และทั้ง 2 ทางที่ว่านี้ กำลังผูกโยงกับ คสช.

อย่างคำว่า "วิน-วิน" ที่ผุดขึ้นเป็นกระแส หลังนางสาวยิ่งลักษณ์-หลบหนีไป โจทย์แรกคือ คสช.เปิดทางให้ จึงเป็นที่มาให้ คสช. ต้องออกมายอมรับว่า "บกพร่อง"แต่หลังจากนี้ ยังมีอีกหลายโจทย์ที่ คสช.ต้องตอบคำถาม โดยเฉพาะคดีที่ว่าด้วยโครงการรับจำนำข้าว จะยังคงเดินหน้ามากน้อยแค่ไหน, คดีที่ว่าค้างเก่าของนายทักษิณ ในยุคของ คสต. จะยังคงรื้อขึ้นมาฟ้อง เพื่อดำเนินคดีไหม 

ที่สำคัญกว่านั้น หากพรรคเพื่อไทย พลิกวิกฤตนี้เป็นโอกาส และยอมให้ผู้นำพรรคคนใหม่ของพรรคเพื่อไทย เป็นคนที่คุยกับ คสช.รู้เรื่อง..แล้ว คสช. จะว่ายังไง

ถ้าสรุปจากบริบทที่ว่านี้ รวบให้เห็นภาพชัดๆ กับ 2 ทางที่อาจเกิดขึ้น คือทางที่พรรคเพื่อไทย หรือนายทักษิณ จำนนต่อ คสช. และยอมที่จะเป็นขั้วเดียวกัน ซึ่งก็น่าจะเป็นไปได้มากกว่าทางที่ 2  ที่นายทักษิณและพรรคเพื่อไทย จะประกาศสู้ทุกมิติ-ตั้ง ครม.เงาอยู่นอกประเทศ แล้วก็เล่นเกมโจมตีการเมืองไทย นั่นอาจมองไม่เห็นความได้เปรียบอื่นใด เพราะอำนาจรัฐ และกฎกติกา ทั้งหมด..อยู่ในมือ คสช. และทั้งหมดที่ว่ามานี้ จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะลบภาพ เพื่อไทย จับมือ ประชาธิปัตย์ สู้ศึกเลือกตั้ง กับ คสช.

แล้วถ้าย้อนกลับไปคิดถ้อยแถลงล่าสุด..ของนายสุเทพ จากที่ปฏิเสธมาตลอด กลับยอมรับแล้วว่า กปปส. จะตั้งพรรคการเมือง นี่อาจไม่ใช่ปริศนาจากนายสุเทพ แต่น่าจะกำลังบอกข้อเท็จจริงบางอย่างที่ใกล้จะตกผลึกและชัดเจนมากขึ้นในเร็วๆนี้

 

เขียน : ต้นไม้ politics