สร้างฝาย--ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ แม่ของแผ่นดินแม่ของแผ่นดิน



 

ตลอดระยะเวลาแห่งรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการในการเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท เพื่อส่งเสริมความกินดีอยู่ดีและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทรงริเริ่มโครงการอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนในหลายด้าน หนึ่งในนั้นคือการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะป่าไม้และแหล่งน้ำซึ่งเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิตและการทำมาหาเลี้ยงชีพของราษฎรในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

 

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2560 บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่มทาทา สตีล (ประเทศไทย) ทั้ง 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท เหล็กสยาม (2001) จำกัด บริษัทเหล็กสยามก่อสร้าง จำกัด และบริษัท เอ็น.ที.เอส.สตีล กรุ๊ป จำกัด จึงร่วมกันจัดโครงการ “ทาทา สตีล ปลูกป่าต้นน้ำ เฉลิมพระเกียรติแม่ของแผ่นดิน ปี 2” อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง

 

พรชัย ตั้งวรกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ - บริษัทเหล็กก่อสร้างสยาม จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี กลุ่มบริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยหลักการเป็นบรรษัทพลเมืองที่ดี บนพื้นฐานของความสำนึกและตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการให้ความสำคัญต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทเติบโตควบคู่ไปพร้อมกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน บริษัทให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนและสังคมโดยรวม ด้วยการเปิดโอกาสและสนับสนุนให้พนักงานเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการตอบแทนสิ่งดีๆ สู่สังคม

 

“โครงการทาทา สตีล ปลูกป่าต้นน้ำ เฉลิมพระเกียรติแม่ของแผ่นดิน เป็นโครงการเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่พันธกิจหลักเพื่อชุมชนและสังคม และเป็นไปตามปณิธานของท่านผู้ก่อตั้งกลุ่มทาทาในการแสดงความรับผิดชอบอย่างแข็งขันต่อประเทศ ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ที่ดำเนินกิจการ ตลอดจนการสร้างความเชื่อมั่นว่าสิ่งดีๆ ที่เราได้รับจากประชาชนจะต้องย้อนกลับสู่ประชาชนเป็นเท่าทวีคูณ”

 

ผู้เข้าร่วมโครงการทาทา สตีล ปลูกป่าต้นน้ำ เฉลิมพระเกียรติแม่ของแผ่นดิน ในปีนี้ประกอบด้วยพนักงานจิตอาสาจากทาทา สตีล และบริษัทในเครือ กว่า 90 คน ด้วยความเชื่อมั่นว่าพนักงานเป็นทรัพยากรที่มีความรู้และความสามารถ ทั้งในด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อมอบสินค้าที่ดี มีคุณภาพให้แก่ลูกค้าแล้ว ยังสามารถนำศักยภาพที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่สังคมได้อีกด้วย ซึ่งทาทา สตีล ได้ปลูกฝังค่านิยมการมีจิตอาสาให้กับพนักงานทุกคนอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการเปิดโอกาสให้พนักงานจัดตั้งชมรมจิตอาสา เพื่อนำเสนอโครงการหรือกิจกรรมช่วยเหลือสังคม สำหรับโครงการที่ผ่านการคัดเลือก ทาทา สตีล จะมอบเงินทุน อุปกรณ์ และสนับสนุนเวลาทำงานโดยไม่คิดเป็นวันลา เพื่อดำเนินโครงการนั้นให้บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ 

 

 

สำหรับกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย พิธีถวายเครื่องราชสักการะ กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติและกล่าวถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 85 พรรษา ตามด้วยกิจกรรมปลูกต้นดาวเรือง จำนวน 600 ต้น ต้นกล้วยจำนวน 500 ต้น บนพื้นที่ 1 ไร่ และร่วมกันสร้างฝายถาวรพร้อมระบบป่าเปียก จำนวน 1 ฝาย ในบริเวณหน่วยจัดการต้นน้ำประแสร์ ซึ่งเป็นการทำระบบกระจายน้ำช่วยการปลูกป่าแบบกึ่งถาวร เพื่อให้ป่าในพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีความชุ่มชื้นต้นไม้ในบริเวณนั้นก็จะงอกขึ้นและเจริญเติบโตได้เอง ซึ่งนับได้ว่าเป็นวิธีการใช้ธรรมชาติเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติอย่างแท้จริง

 

สมควร คชประภา พนักงานจิตอาสาวัยใกล้เกษียณ เผยถึงความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า มันเป็นความภาคภูมิใจเล็กๆ ที่เราได้มีโอกาสช่วยเหลือสังคมในวัยใกล้เกษียณ ที่คนส่วนใหญ่จะมองว่าเป็นวัยที่หมดไฟแล้ว แต่สำหรับผมแม้จะอยู่ในวัยใกล้เกษียณแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกมีพลังที่จะทำสิ่งดีๆเพื่อสังคม เพราะทุกครั้งที่ได้ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาสิ่งที่ผมได้รับกลับมาคือรอยยิ้มและคำขอบคุณที่จริงใจจากชาวบ้าน เด็กๆ หรือทุกคนที่เราได้ลงไปช่วย ผมรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจทุกครั้งที่ได้ทำกิจกรรมอาสาที่บริษัทฯ จัดขึ้น และยังอยากให้ ทาทา สตีล มีกิจกรรมดีๆ แบบนี้ให้พนักงานรุ่นต่อไปได้รู้จักคำว่ายิ่งให้ยิ่งได้แบบที่ผมเคยได้รับมาแล้ว ส่วนผมถึงแม้จะใกล้เกษียณแล้วแต่ผมยังยืนยันว่าตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ก็จะช่วยเหลือสังคมแบบนี้ต่อไป

 

ขณะที่ขนิษฐา ฉิมแฉ่ง พนักงานสาวผู้หลงรักงานอาสา กล่าวว่า ปัจจุบันเราจะเห็นว่าภัยธรรมชาติเริ่มส่งสัญญาณเตือนมาเป็นระยะ ส่วนตัวคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้น จึงเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ ทุกครั้ง เป็นระยะเวลากว่า 6 ปี แล้ว นอกจากนี้ยังได้ชวนพนักงานรุ่นใหม่ๆ ให้มาร่วมกิจกรรมอีกด้วย ซึ่งทุกครั้งที่ได้หวนกลับมาเยือนสถานที่ที่เราได้เคยปลูกป่า เคยสร้างฝาย เราจะเห็นพัฒนาการของสิ่งที่เราได้ลงมือทำ เกิดเป็นความภาคภูมิใจเล็กๆ ว่าเราก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือสังคมได้