หูฟังออร์เฟียสระดับตำนาน:เซนไฮเซอร์HE1



“ประเทศไทยเป็นประเทศที่กำลังเติบโตอย่างมีพลังและสร้างสรรค์ รวมทั้งยังเป็นแหล่งรวมของผู้ที่มีความคลั่งไคล้ในการฟังเสียงที่มีความละเอียดสูง (ออดิโอไฟล์) ปัจจุบันเสียงที่มีความละเอียดสูงนั้น เป็นปัจจัยที่ผู้ฟังชาวไทยนั้นให้ความตระหนักและยังเป็นที่ต้องการสูงขึ้น สังเกตจากตลาดอุตสาหกรรมหูฟังเองที่ผู้ผลิตพัฒนาผลิตภัณฑ์หูฟังที่ตอบโจทย์ความละเอียดเสียงคุณภาพสูงแล้ว ยังสังเกตได้จากผู้ให้บริการดาวน์โหลดเพลงแบบสตรีมมิ่งซึ่งนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ที่ต้องมีไฟล์เสียงความละเอียดสูงให้ผู้ฟังได้เลือกดาวน์โหลดเช่นกัน” มร. มาร์ติน โลว์ กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียของเซนไฮเซอร์ กล่าวและเสริมอีกว่า “HE 1 เป็นตัวอย่างของการฉีกกรอบข้อจำกัดและแสดงให้เห็นว่าเราสามารถกำหนดมาตรฐานใหม่อีกครั้ง ของความเป็นเลิศของเสียงแบบออดิโอและเพื่อเดินหน้าสร้างแนวทางแห่งอนาคตของโลกแห่งเสียง”

การรังสรรค์หูฟังระดับไฮ-เอ็นด์ ที่ให้เสียงเยี่ยมยอดและมอบความรู้สึกให้ผู้ใช้งาน เสมือนอยู่ในโถงคอนเสิร์ตที่ให้เสียงดนตรีที่ล้ำเลิศ ทั้งยังสร้างความรู้สึกในแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน นี่เป็นวิสัยทัศน์ที่เซนไฮเซอร์นั้นมีมาโดยเสมอและได้รับการพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนจากความสำเร็จในปี 2533/2534 ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเสียงได้ทำให้เซนไฮเซอร์ได้รับความนิยมได้เป็นอย่างมาก ด้วยการออกแบบและพัฒนาด้านวิศวกรรมซึ่งปรับเปลี่ยนคุณสมบัติ พัฒนาให้ดีกว่ารุ่นเดิม และขจัดข้อจำกัดทั้งหมดเกี่ยวกับการทำงานของหูฟัง ออร์เฟียส หูฟังระบบอิเล็คโทรสเตติค ที่มาพร้อมแอมป์หลอดขนาด 500โวลต์ อันน่าประทับใจ และกลายเป็นไอคอนของอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเสียง และยังได้รับการยอมรับว่าเป็นหูฟังที่ดีที่สุดในโลกจวบจนบัดนี้

กว่าที่ ออร์เฟียส จะก้าวสู่การเป็นหูฟังระดับตำนานที่เป็นบรรทัดฐานของอุตสากรรมหูฟังนั้น เซนไฮเซอร์ ใช้ความมุมานะในการค้นคว้าโซลูชั่นของนวัตกรรมทางเทคนิคอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย การนำเอาอะคูสติกที่เคยใช้ในรุ่นที่ก่อนมาผนวกผ่านขั้นตอนการทดสอบ หาแนวทางเพื่อจะเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมและดีที่สุด

แนวคิดของต้นแบบเครื่องขยายเสียงที่ไร้เทียมทาน

การผลิตเสียงที่เป็นธรรมชาติเสมือนจริงมากที่สุด และแม่นยำในทุกรายละเอียดนั้น HE 1 ตอบโจทย์นี้ได้อย่างไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน “ไม่มีระบบการผลิตเสียงใดในโลกที่สามารถลอกเลียนแบบการให้เสียงอย่างที่ HE 1 สามารถเนรมิตการถ่ายถอดเสียงได้อย่างสมบูรณ์แบบ เสมือนดั่งเป็นการส่งเสียงออกจากสิ่งนั้นโดยตรง” มร. แดเนียล เซนไฮเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของเซนไฮเซอร์ได้กล่าวไว้

ส่วนประกอบสำคัญของแอมพลิไฟเออร์ ประกอบด้วยหลอดสูญญากาศ จำนวน 8 หลอด ที่จะทำการแปรตัวสัญญาณเสียงที่เข้ามา “ประโยชน์ของแอมป์หลอด คือ การกระตุ้นขั้นตอนการผลิตเสียงที่สุดยอด”  มร. แอกเซล เกรล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์กลุ่มออดิโอไฟล์ของเซนไฮเซอร์ กล่าว “อย่างไรก็ตาม ความท้าทายอีกอย่างของหูฟังรุ่นนี้ คือ เสียงรบกวนที่เดินทางผ่านอากาศ หรือ airborne-noise ที่มีความไวต่อสัมผัสเป็นอย่างมาก” ตัวเครื่องขยายเสียงถูกสร้างขึ้นจากหินอ่อนคาร์รารา ที่ให้คุณสมบัติของการส่งผ่านเสียงได้อย่างเป็นหนึ่งเดียวกันและถ่ายทอดผ่านเครื่องขยายเสียงได้แบบไม่เก็บกักเสียง เซนไฮเซอร์เลือกหินอ่อนที่มาจากเมืองคาร์รารา (Carrara) ในประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นหินอ่อนชนิดเดียวกับที่ศิลปินก้องโลก ไมเคิลแองเจโล นำมาใช้ในงานแกะสลักของตัวเอง พร้อมด้วยหลอดแอมป์ที่อยู่แยกกัน ประกอบกับคุณสมบัติของหินอ่อนที่ช่วยดูดซับเสียงรบกวนที่เดินทางผ่านอากาศให้อยู่ในระดับที่น้อยที่สุด และคุณสมบัติที่มีคุณภาพสูงของตัวหลอดเอง ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการจดสิทธิบัตรนั้น นอกจากนั้นแก้วควอท์ซ ยังป็นส่วนประกอบที่เสมือนเป็นเกราะกำบังหลอดสูญญากาศจากเสียงภายนอกได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ถัดจากหลอดแอมป์ คือขั้นของตัวกระตุ้นเสียงขั้นสูงของแอมป์ ที่ทำงานตรงกับส่วนครอบหูฟังอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก่อให้เกิดผลที่น่าประทับใจคือ ประสิทธิภาพของเสียงที่เพิ่มสูงถึง 200 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับหูฟังแบรนด์อื่นๆ คุณค่าที่ได้รับจากการออกแบบหูฟัง HE 1 รุ่นนี้ คือการย่นระยะการเดินทางของเสียงจากแอมป์สู่ไดอะแฟรมให้สั้นที่สุด นั้นคือ น้อยกว่า 1 เซนติเมตร ผลที่ได้คือใช้พลังงานน้อย ทำให้ประหยัดและไม่ต้องชาร์ตไฟบ่อยครั้ง

ขั้วไฟฟ้าเซรามิกเคลือบทองและไดอะแฟรมที่เคลือบด้วยทองคำขาว

ความใส่ใจอย่างพิถีพิถัน ที่ทุ่มเทให้กับทุกรายละเอียดของการเลือกสรรวัสดุอย่างพิเศษให้กับ HE 1   เพื่อประสิทธิภาพอันสูงสุดของแม่แบบหูฟัง ส่วนประกอบมากกว่า 6,000 ชิ้น ในหูฟังนี้ได้รับการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อส่งผ่านเสียงอะคูสติกออกมาได้อย่างไพเราะที่สุด เพื่อให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพเสียงอันโดดเด่น ส่วนตัวเครื่องขยายเสียงนั้นได้ผ่านการเลือกอย่างพิถีพิถันโดยผู้เชี่ยวชาญด้านออดิโอที่เลือกใช้ชิ้นส่วนประกอบมาเป็นพิเศษ อย่างขั้วไฟฟ้าเซรามิกเคลือบทองและไดอะแฟรมที่เคลือบด้วยทองคำขาวเพื่อให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพเสียงอันโดดเด่น ความหนาของไดอะแฟรมทั้งหมดมีขนาด2.4ไมโครมิเตอร์ ที่จะสามารถการควบคุมการสั่นสะเทือนที่เหมาะสมที่สุดให้กับไดอะแฟรมนั้น อันเป็นผลลัพธ์ที่ได้จากการขยายผลจากทดสอบของทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ สายเคเบิลที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งแปดเส้นนั้น ทำขึ้นจากทองแดงที่ปราศจากออกซิเจนเพื่อให้ได้ค่าการนำไฟฟ้าสูงซึ่งเคลือบด้วยแร่เงิน ที่จะมอบการส่งผ่านสัญญาณออดิโอที่มีประสิทธิภาพสูงสุด สายถูกห่อหุ้มในชั้นฉนวนที่มีส่วนผสมของวัสดุโครงสร้างที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยขจัดคลื่นเสียงที่กระทำต่อสายเคเบิล

การตอบสนองต่อสัญญาณความถี่ที่กว้างเป็นพิเศษ และความเพี้ยนโดยรวมของสัญญาณ ที่ต่ำที่สุดในโลก

ด้วยระบบแปลงสัญญาณความถี่อันเป็นเอกลักษณ์ของ HE 1 ทำให้หูฟังรุ่นนี้ มีการตอบสนองค่าความถี่ตั้งแต่ 8 เฮิรตซ์ จนถึงมากกว่า 100 กิโลเฮิรตซ์ นี่ถือเป็นช่วงความถี่ที่เหนือความสามารถการได้ยินของมนุษย์ อย่างไรก็ดี การตอบสนองต่อช่วงความถี่ที่กว้างอย่างนี้ ยังมีผลต่อประสบการณ์การฟังเพลง ตามที่ได้รับการรับรองว่า เสียงที่ออกมาจากหูฟัง ซึ่งอยู่ในช่วงความถี่ที่สามารถได้ยินได้นั้น ปราศจากความเพี้ยนได้อย่างแท้จริง

ณ ความถี่ 1 กิโลเฮิรตซ์ และระดับแรงดันเสียงที่ 100 เดซิเบล ค่าความเพี้ยนโดยรวมของสัญญาณระบบหูฟังนี้อยู่ที่ 0.01% เท่านั้น ซึ่งหมายความว่า HE 1 สามารถให้สัญญาณเสียงจากแหล่งที่มาได้อย่างแม่นยำเป็นเลิศ และให้รายละเอียดมากกว่าผลิตภัณฑ์ใดๆ ในโลกแห่งออดิโอ ดังนั้น ในแง่ความบริสุทธิ์ของเสียง เซนไฮเซอร์ได้ก้าวผ่านจุดที่ไม่เคยมีการวัดได้มาก่อนในระบบการผลิตซ้ำเสียง แม้แต่ความแตกต่างของดนตรีเพียงน้อยนิดก็สามารถได้ยินได้ "ในเครื่องดนตรีบางชิ้น ซึ่งผมรู้จักมาหลายปี ผมกลับเพิ่งมารู้รายละเอียดอื่นๆ ซึ่งผมไม่เคยได้รู้มาก่อน" มร. แอกเซล เกรล เล่าถึงประสบการณ์การฟังด้วย HE 1  "ผมพบว่านี่มันน่าตื่นเต้นจริงๆ และผู้ฟังคนอื่นๆ ทุกคนก็จะรู้สึกทึ่งกับประสบการณ์เสียงอันเป็นเอกลักษณ์นี้เช่นกัน เพราะดนตรีคือเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกทั้งมวล

เทคโนโลยีที่เหนือกว่าคำกล่าวอ้าง

HE 1 สามารถผลิตเสียงที่ความถี่ที่กว้างของระบบอะนาล็อกและระบบเสียงดิจิตอล นอกจากการรักษาสมดุลของกำลังกระแสไฟฟ้าแล้ว ระบบของหูฟังยังมีซ็อกเก็ตของกำลังกระแสไฟฟ้าที่ยังไม่ได้สมดุลอีก ซึ่งสัญญาณที่กำลังจะส่งเข้าจะถูกทำให้สมดุลก่อนที่จะได้รับการดำเนินการต่อไป ข้อมูลของระบบเสียงแบบดิจิตอลถูกเชื่อมต่อผ่าน S/PDIF (optical and coaxial) หรือผ่าน USB HE 1 เปลี่ยนข้อมูลเพลงจากสัญญาณดิจิตอลไปยังสัญญาณอะนาล็อกโดยใช้ชิป ESS SABRE ES9018 ซึ่งอ้างอิงจากฐานข้อมูลของตัวแปลงจากดิจิตอลไปยังอะนาล็อก สำหรับ HE 1 แล้วตัวแปลงจากระบบดิจิตอลสู่อะนาล็อก (DAC) ภายในทั้ง 8 มีความละเอียด 32 บิต และอัตราตัวอย่างที่มากถึง 384 กิโลเฮิรตซ์หรือสัญญาณไฟล์ดิจิตอล (DSD) 2.8 เมกะเฮิรตซ์ และ 5.6 เมกะเฮิรตซ์จะถูกทำให้สมดุลเพื่อแปลงเป็นสัญญาณอะนาล็อก สำหรับช่องเสียงแบบสเตอริโอแต่ละช่องจะถูกเชื่อมต่อด้วยตัวแปลงจากระบบดิจิตอลสู่อะนาล็อก (DAC) ทั้ง 4 เพื่อลดเสียงรบกวน เป็นผลให้คลื่นความถี่เสียงทั้งหมดของระบบเสียงไฮ-เอ็นด์สามารถผลิตซ้ำได้โดยไม่มีการบิดเบือนทางเสียง