นายกฯยันรบ.เตรียมลุยแก้หนี้นอกระบบ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน"ว่า เรื่องหนี้นอกระบบ เห็นพูดกันมาหลายรัฐบาลแล้ว มีรัฐบาลนี้จะทำให้มันจริงจัง มีมติครม.ออกมาแล้ว ก็ต้องมีวิธีการแก้ปัญหาที่มันถูกต้องตามระบบการเงินการคลัง ตามกฎหมาย  ขอให้ติดตาม ที่ผ่านมาไม่เห็นมีใครทำยังติติง เหมือนพร้อมเพย์วันนี้หายไปไหนพวกที่ติติง พอทำสำเร็จแล้วก็เงียบ โดยวันนี้ได้ตั้งคณะกรรมการประชารัฐ 12 คณะ สร้างวัฎจักรพึ่งพาอาศัยกัน ไม่เสียสมดุล วันนี้นักธุรกิจเหล่านั้นมีเจตนาดีมาช่วยตั้งใข่ เรียกได้ว่าตั้งไข่ให้กับให้บริษัทประชารัฐรักสามัคคีจำกัด ในภาคประชาชน  ส่วนธุรกิจเขาคือธุรกิจของเขา ถ้าถูกกฎหมายก็คือถูกกฎหมาย ผิดกฎหมายก็ไม่ได้  และโครงการที่รัฐบาลอนุมัติไปแล้วโดยครม.จำเป็นต้องคิดให้ครบวงจร ทำแผนอย่างมียุทธศาสตร์

ส่วนเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตถือเป็นวาระแห่งชาติ ทำมาต่อเนื่อง วันนี้ก็มีปัญหาอีกมากมายยิ่งทำก็ยิ่งเจอ ยิ่งทำก็ยิ่งพบ แต่ไม่ใช่ว่าพบการทุจริตเพิ่มมากขึ้นนะ แต่เป็นพบว่าระบบมันยังมีปัญหาอยู่ การตรวจสอบทุจริตนั้นก็ยังดำเนินการต่อไป ถ้าเจอก็จับเจอก็ลงโทษ ถ้าทำไม่ได้ก็ทำต่อไปโดยใช้หลาย ๆ กลไกด้วยกัน ต้องมีระบบที่ดีสามารถตรวจสอบได้ ป้องกันได้ในการทำโครงการต่าง ๆ ของรัฐ และเรามีคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูป ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) มีคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ (บยศ.) ผลักดันกฎหมายเชิงรุก เราก็ป้องกันได้พอสมควร อุดช่องว่างได้พอสมควร

พร้อมสั่งการให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.), ป.ป.ช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาความเป็นไปได้ในการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับอายุความในคดีทุจริต โดยให้เริ่มนับตั้งแต่เมื่อปรากฏหลักฐานการทุจริตไม่ใช่นับจากวันที่กระทำผิดเป็นต้น 

ปัญหาอีกอันหนึ่งที่เราเจอกันมานี้ก็คือการทุจริตในระบบการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งหลายอย่างมันทำถูกทั้งหมด แต่ที่ผิดมันผิดนอกระบบ มันไม่ผิดก่อนเข้ามาในกระบวนการเช่น การสมยอมราคา (การฮั้วประมูล),  การกำหนดราคากลางที่ไม่เป็นมาตรฐาน การกำหนดขอบเขตงาน (ทีโออาร์) ที่ไม่ชัดเจน – ล็อกสเปก หรือการจัดซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย เหล่านี้เป็นต้น 2 ปีกว่า ที่ผ่านมา ระบบเหล่านี้ได้แก้ไขไปตามลำดับ ได้มีการพัฒนาระบบการจัดซื้อภาครัฐ ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีกำหนดแนวทางการจัดหาพัสดุ ด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้เราสามารถประหยัดงบประมาณแผ่นดิน ได้ราว 70,000 ล้านบาท อย่าหาว่าเราไม่ได้แก้ไข

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีการจัดทำข้อตกลงคุณธรรมใน 35 โครงการ ช่วยประหยัดงบประมาณได้กว่า 2,000 ล้านบาท  กำหนดให้มีการเปิดเผยข้อมูลโครงการก่อสร้างภาครัฐเพื่อเกิดความโปร่งใส ในทุกขั้นตอน ปัจจุบันมี 7 โครงการ วงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท รวมทั้งมีการผลักดันพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐฯเพื่อจะให้มีผลบังคับใช้ต่อไป และอนาคตอันใกล้ ต้องกำหนดหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับในเรื่องของการเสนอราคาให้มีความชัดเจนขึ้นเช่น โครงการก่อสร้าง ที่สูงกว่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป จะแต่งตั้งซุปเปอร์บอร์ดเป็นคณะกรรมการเพื่อจะกำกับดูแลในเรื่องนี้ ให้มีการสอบทานกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด ที่ทำแล้วยังไม่จบจะต้องเข้าไปตรวจสอบ อันที่จะทำใหม่ก็ต้องเข้าไปดูแลได้ ทั้งราคากลาง งานก่อสร้าง ของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ อีกชั้นหนึ่ง ในทุกขึ้นตอนที่มีข้อสงสัยก็แก้ไข้ตรงนั้น ถ้ามันผิดทุจริตก็ส่งดำเนินคดีไป ไม่งั้นมันก็ติดไปหมดแหละ ทำเสร็จไปแล้วก็ทุจริตแล้วก็หาหลักฐานไม่ได้