สิ่งดีงาม



หลังจากสำนักพระราชวังประกาศพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต ที่โรงพยาบาลศิริราชเวลา 15.52 น. ของวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมาประชาชนต่างพากันร่ำไห้ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้งทั่วทั้งแผ่นดินตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคมจนถึงวันนี้ พสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศต่างเดินทางมาอย่างไม่ขาดสายเพื่อถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

และลงนามสมุดหลวงเพื่อแสดงความอาลัย ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวังและเฝ้ารับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ที่เสด็จพระราชดำเนินมาในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ต้องคอยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน

โดย พล.ต.ธรรมนูญ วิถี รองมทภ.1 ได้รับมอบหมายจากแม่ทัพภาคที่ 1ให้ทำหน้าที่เป็นส่วนหน้าในการบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่เข้ามาในบริเวณพระบรมมหาราชวัง โดยจัดที่จอดรถบริเวณรอบๆ สนามหลวงและจัดบริการรถขนส่งสาธารณะทั้งของราชการและเหล่าทัพต่างๆ ให้ประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวก

รวมทั้งยังได้จัดพื้นที่พักผ่อนให้ประชาชน 15 จุด ก่อนที่จะเดินทางเข้ามาในสนามหลวงโดยมีหน่วยงานต่างๆ รับผิดชอบ มีกองอำนวยการร่วมที่อยู่บริเวณกลางสนามหลวงที่มีการจัดอาหาร น้ำดื่มยารักษาโรคไว้บริการประชาชน รวมทั้งจัดรถเข็นไว้บริการให้ผู้พิการ

นอกจากนี้ยังได้จิตอาสามาช่วยอำนวยความสะดวกประชาชน คาดการณ์ว่าภายหลังวันที่ 28 ตุลาคมที่สำนักพระราชวังจะเปิดให้เข้าเฝ้าถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทจะมีการแจกบัตรคิวสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าไปในพระบรมมหาราชวังโดยทางสำนักพระราชวังจัดคิวเข้าไปได้ครั้งละ 100 คน เฉลี่ยแล้ววันละประมาณ 30,000-40,000 คนส่วนการจัดกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบพื้นที่สนามหลวงและพระบรมมหาราชวังมีกำลังทหารที่ประจำกองบัญชาการกองพลทหารที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.)ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ประมาณ 50 กองร้อย

และเตรียมกำลังเข้ามาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน 150 กองร้อย ตามการอนุมัติของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยจัดการจากหน่วยขึ้นตรง พล.1 รอ. และกำลังสนับสนุนส่วนอื่นจากกองทัพบกเพิ่มเติมรวมแล้วมีทหารกว่า 30,000 คน ผลัดกันอยู่เวรตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลความเรียบร้อยทั้งสถานที่และลาดตระเวน นอกจากนี้มีกำลังของตำรวจนครบาล 8 สน. ผลัดละ 300 นายเจ้าหน้าที่เทศกิจผลัดละ 200 คน

ด้านกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย (กอร.รส.) กองอำนวยการร่วมกรุงเทพมหานคร(กอร.กทม.) และผู้แทนทุกหน่วยงาน ได้ปรับการปฏิบัติหลายส่วนให้มีความเหมาะสมมากขึ้น อาทิการเดินทางทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยขอให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)เพิ่มบริการรถรับ-ส่งจากจุดจอดรถ 8 แห่ง รวมถึงกรมเจ้าท่า กองทัพเรือ และตำรวจน้ำเพิ่มเรือบริการเนื่องจากการเดินทางโดยเรือมีความสะดวกมากกว่า

ด้านการแพทย์ทุกส่วนบูรณาการในเรื่องการเข้าถึงพื้นที่ การรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานการส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยายาลศิริราช วชิรพยาบาล หรือโรงพยาบาลอื่นๆทางเรือ แพทย์ห่วงเรื่องอากาศร้อนเป็นลมได้ง่าย บางคนมีโรคหัวใจ นอกจากมีจุดให้บริการทางการแพทย์แล้วได้เสริมอาสากู้ชีพของการแพทย์ฉุกเฉินเป็นชุดเดินเท้าเข้าตามพื้นที่ด้วย

เรื่องอาหารและเครื่องดื่มมีส่วนที่ทรงพระราชทานให้ประชาชน มีมูลนิธิต่างๆช่วยทำโรงครัวมากกว่า 22ราย รวมถึงจากทุกกระทรวงที่จัดเสริม และประชาชนที่นำมาให้ซึ่งกันและกันด้วยทางกองอำนวยการร่วมจัดระบบให้มีความทั่วถึง

สำหรับการอำนวยความสะดวกเข้าถวายสักการะและแสดงความอาลัยนั้นทำได้รวดเร็วขึ้นและเป็นระบบประชาชนได้เข้าไปเป็นจำนวนมากขึ้น เฉลี่ยวันละประมาณ 31,000 คน โดยกอร.รส.จะดูแลการปฏิบัติในภาพรวม

ขณะที่พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.)มอบรถเข็นนั่งสำหรับคนพิการ (วีลแชร์) จำนวน 100 คัน ให้กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย(กอ.รส.) เพื่อนำไปอำนวยความสะดวกให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้แก่เด็ก คนพิการ สตรี – สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส รวมถึงประชาชนทั่วไปที่สุขภาพไม่แข็งแรงที่มาร่วมลงนามถวายอาลัย โดยสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่จุดบริการประชาชน “พม. เพื่อพ่อหลวง”

ซึ่งจะมีคณะลูกเสือและคณะจิตอาสาที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)คอยอำนวยความสะดวกและให้การดูแลประชาชนกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึงรวมทั้งให้บริการให้คำปรึกษาแนะนำปัญหาทางสังคมและแจกจ่ายสิ่งของ ได้แก่ ยาดม ยาหม่องและริบบิ้นดำ บริการถุงผ้าใส่ของ บริการฟรี ตัดผมชาย – หญิง และรับบริจาคเสื้อผ้าเด็กและผู้ใหญ่เพื่อนำมาย้อมสีดำสำหรับแจกจ่าย

ด้านจิตอาสาต่างๆ ทั้งหน่วยงานราชการ เอกชน นิสิตนักศึกษา ต่างร่วมกันแจกสิ่งของทั้งเสื้อผ้าอาหาร ขนม ริบบิ้นสีดำ เก็บขยะ เป็นจำนวนมาก โดยทุกคนต่างมาทำด้วยใจที่มุ่งมั่น โดยนางสาวสิริญาชามัท พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง พร้อมด้วยเพื่อนพนักงานหลายสิบคนเดินทางมาร่วมกันแจกอาหารและขนมที่ร่วมกันซื้อมาแจกให้กับประชาชนที่เดินทางมาร่วมถวายอาลัยพร้อมทั้งยังร่วมกันเก็บขยะโดยรอบบริเวณเพื่อความสะอาด

นางสาวสิริญา กล่าวว่า ที่มาร่วมแจกสิ่งของและเก็บขยะในวันนี้ทุกคนในบริษัทต่างมาด้วยใจเพราะอยากร่วมทำความดีเพื่อพ่อหลวง เหนื่อยแค่ไหนก็ไม่ท้อและความตั้งใจนี้จะทำไปเรื่อยๆจนกว่างานในครั้งนี้จะเสร็จสิ้น