เฝ้าระวังเหตุ



หลายคนคงจำเหตุการณ์รุนแรง ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 11 ส.ค. ต่อเนื่องไปจนวันที่ 12 ส.ค. 59 ที่ผ่านมา ซึ่งได้เกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ในย่านเศรษฐกิจ และสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้จำนวน 7 จังหวัด 

ประกอบด้วย จ.ตรัง กระบี่ พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และประจวบคีรีขันธ์ จนทำให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

​สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งตำรวจและทหารก็ให้น้ำหนักไปในทางเดียวกัน คือเป็นฝีมือของกลุ่มการเมืองที่ต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. หลังจากการลงประชามติเมื่อวันที่ 7 ส.ค.  แต่นั่นก็ยังเป็นแค่การคาดเดา ไม่มีใครรับรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริง

​คดีดังกล่าวทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกหมายจับแล้ว 10 คน โดยในพื้นที่จ.ภูเก็ต มีผู้ต้องหา 4 คน ซึ่งขณะนี้จับกุมตัวได้แล้ว 2 คน คือนายอับดุลกอเดร์ สาแล๊ะ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุระเบิด ที่ตลาดเซ็นเตอร์พอยท์ บนถ.รื่นรมย์ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เป็นคนแรก โดยนายอับดุลกอเดร์ เป็นคนกลุ่มเดียวกับที่ก่อเหตุพื้นที่อื่น ๆ ในภาคใต้

​และนายมูฮัมหมัด มูฮิ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุวางระเบิดในตลาดพาราไดซ์ และตลาดไชน่าทาวน์ ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2559 เป็นคนที่ 2 

โดยศาลทหารได้ออกหมายจับในความผิดฐานร่วมกันมีหรือใช้วัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันพยายามวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และเป็นอั้งยี่ 

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามหณกุล รองผบ.ตร. ได้ติดตามความคืบหน้าเหตุระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้อย่างใกล้ชิด พร้อมยอมรับว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ เป็นกลุ่มที่มาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  ซึ่งได้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่เหลือ โดยเชื่อว่ายังกบดานอยู่ในไทย

​นอกจากนี้พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยังระบุอีกว่า ขณะนี้มีบุคคลเฝ้าระวังที่มีพฤติการณ์ก่อความไม่สงบอีกกว่า 1.5 แสนคนทั่วประเทศที่เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังอยู่แล้ว ส่วนกรณีการตรวจค้นสิ่งของต้องสงสัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลโดยเฉพาะพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3,4 นั้น มีการควบคุมตัวกลุ่มบุคคลไปสอบสวนขยายผล 

ซึ่งบางส่วนมีข้อมูลว่าเชื่อมโยงกับนายอาฮามะ ซาลิ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคง ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อปี 2554 นั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผล

​ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นหอพักไม่มีชื่อ ภายในซ.เทศบาลบางเสาธง 35 อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา คนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกับนายมูฮัมหมัด ที่ถูกจับกุม

​"ถ้าถามว่ากลุ่มคนร้ายได้ขยายพื้นที่ก่อเหตุมากกว่า 3 จังหวัดชายแดนใต้หรือไม่ ก็มีบางกลุ่มที่พบว่าก่อเหตุถึงแค่จังหวัดสตูลเท่านั้น ซึ่งได้เริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบันแล้ว แต่ไม่มีข้อมูลว่าเตรียมก่อเหตุในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือทางภาคเหนือ 

ส่วนการแจ้งเตือนรถต้องสงสัย 5 คันที่มีการประกอบระเบิด เป็นการแจ้งเตือนรถต้องสงสัยซึ่งมีมากกว่า 5 คัน รวมแล้วก็ประมาณ 10 คัน ซึ่งเป็นการแจ้งเตือนตามปกติ แต่เบื้องต้นยังไม่พบรถต้องสงสัย" รองผบ.ตร. กล่าว

​รองผบ.ตร. ได้ฝากถึงประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับข่าวการวางระเบิดตามสถานที่สำคัญ ทั้งห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งตำรวจได้จัดกำลังไปตรวจตราทุกพื้นที่ โดยยืนยันว่า ทุกพื้นที่มีความปลอดภัย และหากประชาชนพบบุคคลต้องสงสัย หรือเหตุต้องสงสัย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

เขียน : พายุหมุน

 

 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ