แพรวารายงานผลคุมประพฤติบริการสังคม 138 ชม.


(23สค.59)  ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นัดพร้อมตรวจรายงานการคุมประพฤติ ในคดีที่เยาวชนสาว (แพรวา) ขับรถยนต์เฉี่ยวชนรถตู้โดยสารบนทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตรวม 9 ราย หลังเยาวชนยอมรับเงื่อนไขทำกิจกรรมบริการสังคมใหม่เป็นเวลา 138 ชั่วโมง

เมื่อถึงเวลานัด 09.00น. พนักงานคุมประพฤติได้นำเยาวชนสาว เดินทางมารายงานผลการคุมประพฤติต่อศาลเยาวชนฯ บนห้องพิจารณาคดีที่ 25 นานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับทันที โดยศาลไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าฟังหรือบันทึกภาพในบริเวณศาล ขณะที่พนักงานคุมประพฤติปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยคาดว่าอธิบดีกรมคุมมประพฤติจะเป็นผู้เปิดเผยรายละเอียดอีกครั้ง

ทั้งนี้การนัดรายงานผลคุมประพฤติในวันนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559 ศาลเยาวชนฯ ไต่สวนคำร้องเจ้าพนักงานคุมประพฤติที่ระบุว่าจำเลยผิดเงื่อนไขการคุมประพฤติในการบำเพ็ญประโยชน์ หลังจำเลยทำงานบริการสังคมที่โรงพยาบาลพระมงกุฎที่มีหัวหน้าหอผู้ป่วยและผู้อำนวยการโรงพยาบาลลงลายมือชื่อรับรอง ซึ่งศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการทำกิจกรรมบริการสังคมซึ่งไม่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดพนักงานคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม จึงให้จำเลยไปทำกิจกรรมบริการสังคมใหม่ให้ครบถ้วนเป็นเวลา 138 ชั่วโมง และนัดพร้อมเพื่อฟังผลการทำกิจกรรมบริการสังคมของจำเลย โดยให้พนักงานคุมประพฤติ รายงานผลให้ศาลทราบอย่างช้าในวันนี้ (23 ส.ค.)

ในส่วนคดีอาญาคดีนี้ ศาลเยาวชนฯ ชั้นอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อปี 2557 ยืนโทษจำคุกจำเลย 2 ปี แต่แก้โทษให้เพิ่มเวลารอลงอาญาจาก 3 ปี เป็น 4 ปี คุมประพฤติ 3 ปี พร้อมทั้งให้จำเลยทำงานบริการสังคมปีละ 48 ชั่วโมงเป็นเวลา 4 ปี และห้ามขับรถจนอายุ 25 ปี ก่อนจำเลยยื่นฎีกาสู้คดีในประเด็นว่าไม่มีเจตนา แต่ศาลไม่รับฎีกาของจำเลย เนื่องจากเห็นว่าคำฎีกาของจำเลยไม่เป็นประเด็นสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาได้ คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์จึงเป็นที่สิ้นสุด.